คุณลักษณะของเสียงที่เกิดจากเครื่องดนตรีแต่ละชนิด
ย่อมแตกต่างกันด้วยองค์ประกอบหลายประการ
เครื่องดนตรีแต่ละชนิดมีบทบาทหน้าที่แตกต่างกันไป
การเรียนรู้ให้เข้าใจเรื่องเครื่องดนตรีแต่ละชนิดจะทำให้สามารถจำแนกเครื่องดนตรีได้ถูกต้อง
และเข้าใจในบทบาทหน้าที่ของเครื่องดนตรีแต่ละชนิดที่นำไปประสมวงเป็นวงดนตรีประเภทต่างๆ
เมื่อดนตรีของชาติตะวันตกที่คิดค้นมาจากทวีปยุโรป
และอเมริกา ได้รับการยอมรับมีการนำไปใช้กันอย่างแพร่หลาย
ดนตรีตะวันตกจึงกลายเป็นดนตรี ของคนทุกชาติทุกภาษา ถือได้ว่า เป็นของสากล
จึงเกิดคำว่า ดนตรีสากล เครื่องดนตรีตะวันตกก็เช่นเดียวกัน
เป็นสิ่งประดิษฐ์ที่ชาติตะวันตกได้คิดค้นขึ้นมา
เครื่องดนตรีมีอยู่หลายแบบแตกต่างกันไปตามวัฒนธรรม ความนิยมของแต่ละท้องถิ่น
แต่ละชนชาติ และมีการนำไปใช้กันอย่างแพร่หลายทั่วโลก เป็นที่ยอมรับของคนทุกชาติ
ทุกภาษา ถือว่าเป็นของสากลเช่นกัน จึงเกิดคำว่า เครื่องดนตรีสากล ซึ่งหมายถึง
เครื่องดนตรีที่ถือกำเนิดมาจากชาติตะวันตกนั่นเอง
เครื่องดนตรีคือสิ่งประดิษฐ์ที่มนุษย์สร้างขึ้นมาเพื่อกำเนิดเสียงชนิดต่างๆ
ตามที่ต้องการ เสียงของเครื่องดนตรีแต่ละชนิดมีความแตกต่างกันออกไป ทำให้เกิดความหลากหลายของเสียง
บทเพลงมีสีสัน มีชีวิตชีวา เสริมสร้างอารมณ์จากเสียงของเครื่องดนตรีชนิดต่างๆ
เครื่องดนตรีสากลในปัจจุบันสามารถจำแนกหรือจัดเป็นประเภทใหญ่ๆ
ตามลักษณะของเสียงที่คล้ายคลึงกัน และลักษณะของเครื่องดนตรี แบ่งออกเป็น 5 ประเภทใหญ่ๆ ดังนี้
1. เครื่องสาย (String Instruments)
เครื่อง
ดนตรีประเภทเครื่องสาย สายของเครื่องดนตรีประเภทนี้มีทั้งสายที่ทำมาจากเส้นลวด
เส้นเอ็น เส้นไหม ไนล่อน หรือโลหะอย่างใดอย่างหนึ่ง นำมาขึงให้ตึง
ความดังของเสียงขึ้นอยู่กับรูปร่าง และวัสดุที่นำมาใช้ทำกะโหลกเครื่องดนตรี
กะโหลกเครื่องดนตรีทำหน้าที่เป็นตัวขยายเสียงที่เกิดจากการสั่นสะเทือนของ สาย
เครื่องดนตรีประเภทเครื่องสายที่นำมาใช้ในการประสมวงดนตรีมีดังนี้
ประเภทเครื่องสี
ได้แก่ ไวโอลิน วิโอลา เชลโล
ดับเบิลเบส
ประเภทเครื่องดีด
ได้แก่ ฮาร์พ ไลร์
ลูท แบนโจ กีต้าร์ แมนโดลิน
2. เครื่องลมไม้
(Woodwind Instruments)
เครื่องดนตรี
ประเภทนี้ เกิดเสียงโดยการเป่าลมผ่านช่องแคบๆ ให้เข้าไปภายในท่อ
ซึ่งทำหน้าที่เป็นตัวขยายเสียงให้ดังขึ้น คุณลักษณะของเสียงที่เกิดขึ้นจะแตกต่างกัน
ตามขนาดของท่อ ความสั้นยาวของท่อ และความแรงของลมที่เป่าเข้าไปภายในท่อ
เครื่องดนตรี
แต่ละชนิดยังมีขนาดต่างๆ กันออกไป เครื่องดนตรีขนาดเล็กจะให้ระดับเสียงสูง
เครื่องดนตรีขนาดใหญ่จะให้เสียงต่ำ ผู้บรรเลงจะต้องเลือกใช้เครื่องดนตรีให้เหมาะสมกับบทเพลง
ตามที่ผู้ประพันธ์เพลงได้กำหนดไว้ ประกอบไปด้วยเครื่องดนตรีดังต่อไปนี้
ประเภทเป่าลมผ่านช่องลม
ได้แก่ เรคอร์เดอร์ ปิคโคโล ฟลูท
ประเภทเป่าลมผ่านลิ้น
ได้แก่ คลาริเน็ต แซกโซโฟน
3. เครื่องลมทองเหลือง
(Brass Instruments)
เครื่อง
ดนตรีประเภทนี้มักทำด้วยโลหะผสมหรือโลหะทองเหลือง
เสียงของเครื่องดนตรีประเภทนี้เกิดจากการเป่าผ่านท่อโลหะ
ความสั้นยาวของท่อโลหะทำให้ระดับเสียงเปลี่ยนไป
การเปลี่ยนความสั้นยาวของท่อโลหะจะใช้ลูกสูบเป็นตัวบังคับ
เครื่องดนตรี
บางชนิดจะใช้การชักท่อลมเข้าออก เปลี่ยนความสั้นยาวของท่อตามความต้องการ
ลักษณะเด่นของเครื่องดนตรีประเภทนี้
มีปากลำโพงสำหรับใช้ขยายเสียงให้มีความดังเจิดจ้า
เรามักเรียกเครื่องดนตรีประเภทนี้รวมๆ กันว่า แตร ขนาดของปากลำโพงขึ้นอยู่กับขนาดของเครื่องดนตรี
ปากเป่าของเครื่องดนตรีประเภทนี้เรียกว่า กำพวด (Mouthpiece) ทำด้วยท่อโลหะ ทรงกรวย
ด้านปากเป่ามีลักษณะบานออก คล้ายรูปกรวย มีขนาดต่างๆ กัน
ตามขนาดของเครื่องดนตรีนั้นๆ ปลายท่ออีกด้านหนึ่งของกำพวด
ต่อเข้ากับท่อลมของเครื่องดนตรี
เครื่องดนตรีสากลประเภทเครื่องลมทองเหลือง
ได้แก่ คอร์เน็ต
ทรัมเป็ต บิวเกิล ฟลูเกิลฮอร์น
เฟรนช์ฮอร์น ทรอมโบน บาริโทน ยูโฟเนียม
ทูบา ซูซาโฟน
4.
เครื่องลิ่มนิ้ว (Keyboard Instruments)
เครื่องดนตรีในยุคนี้
มักนิยมเรียกทับศัพท์ในภาษาอังกฤษว่า เครื่องดนตรีประเภทคีย์บอร์ด ลักษณะเด่นของเครื่องดนตรีที่อยู่ในกลุ่มนี้ก็คือ
มีลิ่มนิ้วสำหรับกด เพื่อเปลี่ยนระดับเสียงดนตรี ลิ่มนิ้วสำหรับกดนั้นนิยมเรียกว่า
คีย์ (Key) เครื่องดนตรีแต่ละชนิดมีจำนวนคีย์ไม่เท่ากัน
โดยปกติสีของคีย์เป็นขาวหรือดำ คีย์สีดำโผล่ขึ้นมากกว่าคีย์สีขาว
การเกิดเสียง
ของเครื่องดนตรีในกลุ่มนี้มีหลายลักษณะ เปียโน ฮาร์ปซิคอร์ด
คลาวิคอร์ด เกิดเสียง โดยการกดคีย์ที่ต้องการ แล้วคีย์นั้นจะส่งแรงไปที่กลไกต่างๆ
ภายในเครื่องเพื่อที่จะทำให้สายโลหะที่ขึงตึงสั่นสะเทือน ทำให้เกิดเสียงให้ดังขึ้น
เครื่องดนตรีประเภทคีย์บอร์ดบางชนิดให้ลมผ่านไปยังลิ้นโลหะให้สั่นสะเทือน
ทำให้เกิดเสียงดังขึ้น
เครื่องดนตรีประเภทคีย์บอร์ดบางชนิดให้ลมผ่านไปยังลิ้นโลหะให้สั่นสะเทือนทำให้เกิดเสียง
ในปัจจุบันไม่นิยมใช้แล้วจะมีบางเป็นบางโอกาส
ในปัจจุบัน
เครื่องดนตรีประเภทคีย์บอร์ดที่เกิดเสียงโดยใช้วงจรอิเล็คทรอนิกส์
ไดรับความนิยมมาก เพราะสามารถเลียนแบบเสียงเครื่องดนตรีต่างๆ ได้หลายชนิด
ซึ่งได้พัฒนามาจากออร์แกนไฟฟ้านั่นเอง มีชื่อเรียกหลายชื่อ
แต่ละชื่อมีลักษณะแตกต่างกันออกไป เช่น เครื่องสตริง (String Machine) คือ
เครื่องประเภทคีย์บอร์ด ทีเลียนเสียงเครื่องดนตรีในตระกูลไวโอลินทุกชนิด อิเล็คโทน คือ เครื่องดนตรีประเภทคีย์บอร์ดที่มีจังหวะในตัว
สามารถบรรเลงเพลงต่างๆ ได้ด้วยนักดนตรีเพียงคนเดียว
ในยุคของ
คอมพิวเตอร์ เครื่องดนตรีประเภทคีย์บอร์ดได้วิวัฒนาการไปมาก เสียงต่างๆ มีมากขึ้น
นอกจากเสียงดนตรีแล้วยังมีเสียงเอฟเฟ็คต์ (Effect) ต่างๆ ให้เลือกใช้มาก เสียงต่างๆ
เหล่านี้เป็นเสียงที่สังเคราะห์ขึ้นมาด้วยระบบ อิเล็คทรอนิกส์
ดังนั้นเครื่องดนตรีประเภทนี้จึงถูกเรียกว่า ซินธีไซเซอร์ (Synthesizer)
เครื่องดนตรีที่จัดอยู่ในกลุ่มเครื่องลิ่มนิ้ว
ได้แก่ เปียโน ออร์แกน ฮาร์พซิคอร์ด คลาวิคอร์ด แอคคอร์เดียน อิเลคโทน
5. เครื่องกระทบ
(Percussion Instruments)
เครื่อง
ดนตรีประเภทเครื่องกระทบ ได้แก่ เครื่องดนตรีที่เกิดเสียงจากการตี การสั่น
การเขย่า การเคาะ หรือการขูด
การตีอาจจะใช้ไม้ตีหรืออาจจะใช้สิ่งหนึ่งกระทบเข้ากับอีกสิ่งหนึ่งเพื่อทำ
ให้เกิดเสียง เครื่องกระทบประกอบขึ้นด้วยวัสดุที่เป็นของแข็งหลายชนิด เช่น โลหะ
ไม้ หรือแผ่นหนังขึงตึง แบ่งออกเป็น2ประเภท
ได้แก่
เครื่องดนตรีที่มีระดับเสียงแน่นอน
(Definite Pitch Instruments)
เครื่องดนตรีกลุ่มนี้มีระดับเสียงสูงต่ำเหมือนกับเครื่องดนตรีประเภทอื่น
เกิดเสียงโดยการตีกระทบ ส่วนใหญ่ตีกระทบเป็นทำนองเพลงได้
ไซโลโฟน ไวบราโฟน มาริมบา ระฆังราว
กลองทิมปานี
ประเภทเครื่องดนตรีที่มีระดับเสียงไม่แน่นอน
(Indefinite Pitch Instruments)
เครื่องดนตรีกลุ่มนี้ไม่มีระดับเสียงที่แน่นอน
หน้าที่สำคัญคือ ใช้เป็นเครื่องดนตรีประกอบจังหวะ เกิดเสียงโดยการตี สั่น เขย่า
เคาะ หรือขูด
กลองใหญ่
กลองแต๊ก ฉาบ กิ๋ง แทมบูริน เคาเบลล์ คาบาซา บองโก คองการ์ กลองชุด