การเปรียบเทียบตัวโน๊ตเป็นอักษรไทย
สำหรับผู้ที่เริ่มเรียนดนตรีไทยและยังไม่มีพื้นฐานด้านดนตรีมาก่อนอาจจะไม่เข้าใจลักษณะการอ่านโน้ตเพลงไทยดังนั้นเพื่อให้เกิดความเข้าใจในการอ่านจึงขอใช้หลักการอ่านโน้ตไทยตามหลักทฤษฎีของ
พ.ท.พระอภัยพลรบ (เพ็ง เพ็ญกุล)ซึ่งเป็นผู้แต่งตำราดนตรีวิทยาเมื่อ พ.ศ.2450
แล้วบัญญัติหลักการบันทึกโน้ตแบบตัวอักษรขึ้นถือเป็นทฤษฎีที่ได้รับความนิยมมากโดยใช้ตัวอักษรไทยมาเปรียบเทียบให้ตรงกับเสียงของโน้ตสากลดังนี้
ด=โด
ร=เร
ม
=มี
ฟ=ฟา
ซ=ซอล
ล=ลา
ท=ที
ในกรณีที่โน้ตเสียงสูงจะใช้การประจุดไว้บนเสียงโน้ต เช่น ดํ = โด
สูง
เป็นต้นหลักการนี้จะทำให้ผู้ที่เริ่มเรียนจะเข้าใจได้ง่ายสำหรับวิธีการบันทึกโน้ตไทยนั้นจะใช้การบันทึกไปบนช่องตารางโดยแบ่งออกเป็นบรรทัด
ๆ ละ 8 ห้อง ในแต่ละห้องจะมีบรรจุโน้ตไว้ 4 ตัวถ้าเป็นอัตราจังหวะ 2 ชั้นโน้ตตัวสุดท้ายของแต่ละห้องจะเป็นโน้ตเสียงตกจังหวะซึ่งในที่นี้จะอธิบายเฉพาะการอ่านโน้ตแบบอัตรา
2 ชั้นเป็นหลัก
ฉิ่ง ฉับฉิ่งฉับ ฉิ่งฉับ ฉิ่งฉับ
1234 |
1234 |
1234 |
1234 |
1234 |
1234 |
1234 |
1234 |
นอกจากโน้ตที่บันทึกลงในช่องแล้วยังมีเครื่องหมาย ซึ่งแทนตัวโน้ตเอาไว้ด้วยโดย 1 ขีด (-)แทนโน้ต 1
ตัวแสดงถึงการเพิ่มเสียงตัวโน้ตที่อยู่ข้างหน้าเครื่องหมายให้มีเสียงยาวขึ้นทั้งนี้ความยาวของเสียงจะมีมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับจำนวนขีด
(-)ดังนี้
ถ้ามี
-มีค่าความยาวของเสียงเท่ากับ ¼ จังหวะ
ถ้า มีค่าความยาวของเสียงเท่ากับ 2/4 จังหวะ
ถ้ามีมีค่าความยาวของเสียงเท่ากับ ¾จังหวะ
ถ้ามี-มีค่าความยาวของเสียงเท่ากับ 4/4 หรือ เท่ากับ 1
จังหวะ
เมื่อเข้าใจถึงเครื่องหมายต่าง ๆ
แล้ววิธีการอ่านโน้ตไทยนั้นจะใช้การเคาะจังหวะที่โน้ตท้ายห้องแทนเสียงฉิ่งฉับซึ่งอัตรา
2 ชั้นจะมีโน้ตตัวสุดท้ายเป็นเสียงตกจังหวะเสมอกำหนดให้ 1
บรรทัดโน้ตเท่ากับ 1 หน้าทับปรบไก่ดังที่กล่าวไว้ในบทที่
1ดังนั้นเมื่ออ่านโน้ตอัตรา 2 ชั้นควรเคาะจังหวะที่โน้ตห้องสุดท้ายแทนเสียงฉิ่งเสียงฉับจะทำให้เข้าใจวิธีการบันทึกได้ง่ายขึ้นสำหรับการบันทึกโน้ตไทยโดยทั่วไปจะมีการบันทึกไว้7แบบซึ่งเป็นแบบที่พบกันมากที่สุดดังนี้
1.โน้ตแบบ 4 ตัวต่อ 1 ห้อง
ฉิ่ง
ฉับฉิ่งฉับ ฉิ่งฉับ ฉิ่งฉับ
ดดดด |
รรรร |
มมมม |
ฟฟฟฟ |
ซซซซ |
ลลลล |
ทททท |
ดํดํดํดํ |
2. โน้ตแบบ 3
ตัวต่อ 1 ห้อง
ฉิ่ง
ฉับฉิ่งฉับ ฉิ่งฉับ ฉิ่งฉับ
-ดดด |
-รรร |
-มมม |
-ฟฟฟ |
-ซซซ |
-ลลล |
-ททท |
-ดํดํดํ |
3.โน้ตแบบ 2 ตัวต่อ 1 ห้อง (ตัวที่ 2 และตัวที่ 4)
ฉิ่ง
ฉับฉิ่งฉับ ฉิ่งฉับ ฉิ่งฉับ
-ด-ด |
-ร-ร |
-ม-ม |
-ฟ-ฟ |
-ซ-ซ |
-ล-ล |
-ท-ท |
-ดํ-ดํ |
4. โน้ตแบบ 2 ตัวต่อ 1 ห้อง (ตัวที่ 3 และตัวที่ 4)
ฉิ่ง
ฉับฉิ่งฉับ ฉิ่งฉับ ฉิ่ง ฉับ
ดด |
รร |
มม |
ฟฟ |
ซซ |
ลล |
ทท |
ดํดํ |
5. โน้ตแบบ 1 ตัวต่อ 1 ห้อง (ตัวที่ 4)
ฉิ่ง
ฉับฉิ่งฉับ ฉิ่งฉับ ฉิ่ง ฉับ
- -ด |
ร |
ม |
ฟ |
ซ |
ล |
ท |
ดํ |
6.โน้ตแบบ 1 ตัวต่อ 2 ห้อง (ซึ่งเป็นโน้ตแทนเสียงที่ยาวห่าง ๆ การมีคือแทนเสียงโน้ตตัวนั้น)
ฉิ่ง
ฉับฉิ่งฉับ ฉิ่งฉับ ฉิ่งฉับ
- |
ด |
- |
ร |
- |
ม |
- |
ฟ |
จากวิธีการบันทึกโน้ตไทยทั้ง
6 แบบถือเป็นพื้นฐานสำคัญสำหรับการเริ่มอ่านโน้ตเพลงอัตรา 2
ชั้นที่จะนำมาศึกษาและสามารถครอบคลุมวิธีการอ่านโน้ตเพลงได้ทั้งหมด
เพราะการศึกษาเพลงไทยนั้นควรจะต้องทราบถึงวิธีการอ่านโน้ตไทยเสียก่อน