จังหวะทำนอง (Duration) หมายถึงความสั้นยาวของเสียงทุกเสียงในทำนองเพลง 

1 เครื่องหมายกำหนดจังหวะ (Time Signature)

ดนตรีเป็นโสตศิลป์ที่เกี่ยวข้องกับเสียงและเวลาเวลาในทางดนตรีถูกกำหนดโดยใช้เครื่องหมายกำหนดจังหวะเป็นตัวเลขคล้ายกับเลขเศษส่วน แต่ไม่มีเส้นตรงขีดระหว่างตัวเลขบนและล่าง

http://www.lks.ac.th/band/Image4.gif


ตัวเลขตัวบน ใช้บอกจำนวนตัวโน้ต หรือจังหวะภายในแต่ละห้อง เช่น

เลข 2 หมายถึง มีตัวโน้ตได้ 2 ตัว

เลข 3 หมายถึง มีตัวโน้ตได้ 3 ตัว

เลข 4 หมายถึง มีตัวโน้ตได้ 4 ตัว

เลข 6 หมายถึง มีตัวโน้ตได้ 6 ตัว

ตัวเลขตัวล่าง ใช้บอกลักษณะตัวโน้ตที่ใช้เป็นเกณฑ์

เลข 2 ใช้แทนโน้ต ตัวขาว

เลข 4 ใช้แทนโน้ต ตัวดำ

เลข 8 ใช้แทนโน้ต ตัวเขบ็ต 1 ชั้น

เลข 16 ใช้แทนโน้ต ตัวเขบ็ต 2 ชั้น

 

http://www.lks.ac.th/band/Time03-4.jpeg

 

          โดยทั่วไปในทางดนตรีสามารถจำแนกอัตราจังหวะได้ 2 ประเภทคือ อัตราจังหวะธรรมดา (Simple Time Signatures) และอัตราจังหวะผสม (Compound Time Signatures)

 

http://www.lks.ac.th/band/Simple20time.jpeg

 

http://www.lks.ac.th/band/Image7.gif

 

จากตัวอย่างข้างต้น อ่านว่า เครื่องหมายกำหนดจังหวะ สี่ – สี่ หมายความว่าภายในหนึ่งห้องเพลงที่กำหนดด้วยเครื่องหมายกำหนดจังหวะนี้ประกอบด้วยตัวโน้ตตัวดำ (เลข 4 ตัวล่าง) ได้จำนวน 4 ตัว (เลข 4 ตัวบน) ในการปฏิบัติให้ถือว่า 1 ห้อง มี 4 จังหวะ ในอีกความหมายหนึ่งก็คือ ภายหนึ่งห้องจะประกอบด้วยตัวโน้ตหรือตัวหยุดชนิดใดก็ได้แต่รวมกันแล้วต้องไม่เกิน 4 จังหวะ

 

http://www.lks.ac.th/band/Image8.gif

 

จากตัวอย่างข้างต้น อ่านว่า เครื่องหมายกำหนดจังหวะ สาม – สี่ หมายความว่าภายในหนึ่งห้องเพลงที่กำหนดด้วยเครื่องหมายกำหนดจังหวะนี้ประกอบด้วยตัวโน้ตตัวดำ (เลข 4 ตัวล่าง) ได้จำนวน 3 ตัว (เลข 3 ตัวบน) ในการปฏิบัติให้ถือว่า 1 ห้อง มี 3 จังหวะ ในอีกความหมายหนึ่งก็คือ ภายหนึ่งห้องจะประกอบด้วยตัวโน้ตหรือตัวหยุดชนิดใดก็ได้แต่รวมกันแล้วต้องไม่เกิน 3 จังหวะ

 

http://www.lks.ac.th/band/Image9.gif


          จากตัวอย่างข้างต้น อ่านว่า เครื่องหมายกำหนดจังหวะ สาม – แปด หมายความว่าภายในหนึ่งห้องเพลงที่กำหนดด้วยเครื่องหมายกำหนดจังหวะนี้ประกอบด้วยตัวโน้ตตัวเขบ็ต 1 ชั้น (เลข 8 ตัวล่าง) ได้จำนวน 3 ตัว (เลข 3 ตัวบน) ในการปฏิบัติให้ถือว่า 1 ห้อง มี 3 จังหวะ ในอีกความหมายหนึ่งก็คือ ภายหนึ่งห้องจะประกอบด้วยตัวโน้ตหรือตัวหยุดชนิดใดก็ได้แต่รวมกันแล้วต้องไม่เกิน 3 จังหวะ

 

http://www.lks.ac.th/band/Compound20time.jpeg

 

http://www.lks.ac.th/band/Image11.gif

 

          จากตัวอย่างข้างต้น อ่านว่า เครื่องหมายกำหนดจังหวะ หก – สี่ หมายความว่าภายในหนึ่งห้องเพลงที่กำหนดด้วยเครื่องหมายกำหนดจังหวะนี้ประกอบด้วยตัวโน้ตตัวดำ (เลข 4 ตัวล่าง) ได้จำนวน 6 ตัว (เลข 6 ตัวบน) ในการปฏิบัติให้ถือว่า 1 ห้อง มี 2 จังหวะ เนื่องจากเป็นอัตราจังหวะผสม โน้ตตัวดำ 3 ตัวให้นับ 1 จังหวะ หรือ 1 เคาะในอีกความหมายหนึ่งก็คือ ภายหนึ่งห้องจะประกอบด้วยตัวโน้ตหรือตัวหยุดชนิดใดก็ได้แต่รวมกันแล้วต้องไม่เกิน 6 จังหวะ (อัตราตัวโน้ตปกติ)

 

http://www.lks.ac.th/band/Image12.gif

 

          จากตัวอย่างข้างต้น อ่านว่า “เครื่องหมายกำหนดจังหวะ หก – แปด” หมายความว่าภายในหนึ่งห้องเพลงที่กำหนดด้วยเครื่องหมายกำหนดจังหวะนี้ประกอบด้วยตัวโน้ตตัวเขบ็ต 1 ชั้น (เลข 8 ตัวล่าง) ได้จำนวน 6 ตัว (เลข 6 ตัวบน) ในการปฏิบัติให้ถือว่า 1 ห้อง มี 2 จังหวะ เนื่องจากเป็นอัตราจังหวะผสม โน้ตเขบ็ต 1 ชั้น 3 ตัวให้นับ 1 จังหวะ หรือ 1 เคาะในอีกความหมายหนึ่งก็คือ ภายหนึ่งห้องจะประกอบด้วยตัวโน้ตหรือตัวหยุดชนิดใดก็ได้แต่รวมกันแล้วต้องไม่เกิน 3 จังหวะ (อัตราตัวโน้ตปกติ)

 

http://www.lks.ac.th/band/Image13.gif

 

          จากตัวอย่างข้างต้น อ่านว่า “เครื่องหมายกำหนดจังหวะ เก้า – แปด” หมายความว่าภายใน

หนึ่งห้องเพลงที่กำหนดด้วยเครื่องหมายกำหนดจังหวะนี้ประกอบด้วยตัวโน้ตตัวเขบ็ต 1 ชั้น (เลข 8 ตัวล่าง) ได้จำนวน 9 ตัว (เลข 9 ตัวบน) ในการปฏิบัติให้ถือว่า 1 ห้อง มี 3 จังหวะ เนื่องจากเป็นอัตราจังหวะผสม โน้ตตัวเขบ็ต 1 ชั้น 3 ตัวให้นับ 1 จังหวะ หรือ 1 เคาะในอีกความหมายหนึ่งก็คือ ภายหนึ่งห้องจะประกอบด้วยตัวโน้ตหรือตัวหยุดชนิดใดก็ได้แต่รวมกันแล้วต้องไม่เกิน4 จังหวะ (อัตราตัวโน้ตปกติ)

2 ความเร็วจังหวะ (Tempo) หมายถึง ความเร็วของบทเพลงต่าง ๆ ที่อัตราความช้าเร็วต่างกันออกไปทั้งนี้ขึ้นอยู่กับผู้ประพันธ์เพลงผู้กำหนดว่าจะให้มีความช้า – เร็ว เท่าไร อาจมีจังหวะเร็ว ปานกลาง หรือช้าก็ได้ แต่ต้องเคาะจังหวะให้ช่องของจังหวะห่างเท่ากันเสมอ ในทางปฏิบัตินั้นการกำหนดความช้า – เร็ว ของแต่ละคนนั้นไม่เท่ากันจึงมีผู้ประดิษฐ์เครื่องมือที่ใช้เคาะจังหวะขึ้นมาเรียกว่า “เมโทรโนม” (Metronome) เพื่อให้ใช้ยึดว่าความช้า – เร็ว เท่าใดควรจะเคาะอย่างไรโดยการกำหนดเป็นคำศัพท์ทางดนตรีดังนี้เช่น

 

largo

(very slow, broad) 40-56

ช้ามาก

grave

(very slow, solemn)

ช้ามาก ๆ

adagio

(slow)58-70

ช้า ๆ ไม่รีบร้อน

andante

(moderately slow)72-90

ช้า, ก้าวสบาย ๆ

moderrato

(moderate) 93-100

ความเร็วปานกลาง

allegretto

(moderately fast)102-120

ค่อนข้างเร็ว

allegro

(fast) 125-134

เร็ว

vivace

(lively) 136-172

เร็วขึ้นแบบมีชีวิตชีวา

presto

(very fast) 174-216

เร็วมากทันทีทันใด

prestissimo

(as fast as possible) 218-

เร็วที่สุด

 

http://www.lks.ac.th/band/Metronome.jpeg

 

http://www.lks.ac.th/band/Metronome1.jpeg

เมโทรโนม(Metronome) คือ เครื่องกำหนดจังหวะโดยใช้การบอกว่าใน 1 นาที จะมีจังหวะตบกี่ครั้ง เช่น adagio มีความเร็ว 70 ครั้งต่อนาที เป็นต้น

 

3. จังหวะตบหรือจังหวะเคาะ (Beat) หมายถึง การเคาะหรือนับจังหวะอย่างสม่ำเสมอที่ปรากฏในบทเพลง เป็นจังหวะธรรมดาที่ดำเนินไปเรื่อย ๆ คล้ายกับจังหวะการเต้นของหัวใจ (Pulse) ความช้า – เร็วนั้นขึ้นอยู่การกำหนดของผู้แต่ง หรือผู้ประพันธ์ (Composer)

 

http://www.lks.ac.th/band/Hard.jpeg


     http://www.lks.ac.th/band/Bea20up-down.jpeg

 

4.อัตราจังหวะ (Meter) หมายถึง การจัดกลุ่มของจังหวะตบหรือการจัดกลุ่มการเคาะ และการเน้นจังหวะเคาะอย่างสม่ำเสมอ โดยปกติจังหวะที่ 1 จัดเป็นจังหวะที่หนักที่สุดเช่น

กลุ่มจังหวะธรรมดา

 

http://www.lks.ac.th/band/Wpe51.gif

 

กลุ่มจังหวะผสม

http://www.lks.ac.th/band/Wpe52.gif

 

 ทำนอง คือ เสียงที่เปล่งออกมาโดยมีความต่อเนื่องกันเป็นระบบ ทำนองเปรียบเหมือนรูปร่างของบทเพลง มีเสียงสูง, ต่ำ,สั้น,ยาว ประกอบกันเข้า โดยทั่วไปดนตรีประกอบด้วยทำนองซึ่งเป็นองค์ประกอบที่ง่ายต่อการจำ องค์ประกอบของทำนองประกอบด้วย

 

http://www.lks.ac.th/band/Melodic20Rhythm.jpeg

           

- ความยาว (Length) ทำนองเพลงโดยทั่วไปมักประกอบด้วยทำนองทั้งสั้นและยาวส่วนที่สั้นที่สุดเรียกว่า “โมทีฟ” (Motive) (โน้ตที่อยู่ในวงกลม)

 

http://www.lks.ac.th/band/Motive.jpeg

 

- ช่วงกว้างของเสียง (Range) หมายถึง ช่วงห่างของเสียงที่ประกอบกันเป็นทำนองเพลงช่วงห่างของเสียงจะอยู่ช่วงใดของบทเพลงก็ได้ขึ้นอยู่กับผู้ประพันธ์

 

http://www.lks.ac.th/band/a04.gif