อาหารหลัก 5 หมู่ พูดถึงอาหารแล้วทุกคนย่อมเข้าใจถึงสิ่งที่กินเพื่อให้หายหิว และหายอยาก แต่หลายคนไม่ได้คำนึงถึงประโยชน์ และโภชนาการของอาหารเหล่านั้น จึงทำให้บางคนมีภาวะขาดสารอาหาร และบางคนเกิดภาวะเสื่อมถอยของร่างกายเพราะไม่ได้อาหารครบตาม ที่ร่างกายต้องการ ร่างกายจึงแสดงอาการออกมาตามสิ่งที่ขาดไป เช่น ขาดวิตามินเอทำให้ตาฟาง มองไม่เห็นในที่มืด เพราะไม่ได้กินผักผลไม้ ให้เพียงพอ เป็นต้น ดังนั้น เราควรมาทำความรู้จักกับ อาหารหลัก 5 หมู่ อย่างถ่องแท้กันเถอะ
อาหารหลัก 5 หมู่ คือ อาหารที่ร่างกายต้องการในแต่ละวัน 5 ชนิด โดยนำอาหารที่มีสารอาหารเหมือนกัน มาไว้ในหมวดหมู่เดียวกัน ซึ่งคนเราในแต่ละวันนั้น ต้องการสารอาหารทั้ง 5 ชนิด ดังนั้นเราควรกินอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่
อาหารหลัก 5 หมู่ จำแนกได้ดังนี้
ที่มารูปภาพ : http://www.rakjung.com/healthy-no130.html
หมู่ที่ 1 โปรตีน
หมู่ที่ 2 คาร์โบไฮเดรต
หมูู่ที่ 3 วิตามิน
หมู่ที่ 4 แร่ธาตุ
หมู่ที่ 5 ไขมัน
เพื่อความเข้าใจง่ายเราจะจัด อาหารหลัก 5 หมู่ กันใหม่ เพื่อการจดจำที่ง่ายและสามารถหาทานได้อย่างถูกต้อง จะได้มีประโยชน์ อย่างแท้จริง ซึ่งเราจะจำแนกออกเป็น 5 หมู่ และบอกประโยชน์ รวมทั้งตัวอย่างดังนี้
อาหารหมู่ที่ 1 เนื้อสัตว์ ไข่ นม และถั่วเมล็ดแห้ง (โปรตีน)
ที่มารูปภาพ : http://www.rakjung.com/healthy-no130.html
อาหารหมู่ที่ 2 ข้าวแป้ง น้ำตาล เผือก มัน (คาร์โบไฮเดรต)
ที่มารูปภาพ : http://www.rakjung.com/healthy-no130.html
อาหารหมู่ที่ 3 ผักต่างๆ (วิตามิน+แร่ธาตุ)
ที่มารูปภาพ : http://www.rakjung.com/healthy-no130.html
อาหารหมู่ที่ 4 ผลไม้ต่างๆ (วิตามิน+แร่ธาตุ)
ที่มารูปภาพ : http://www.rakjung.com/healthy-no130.html
อาหารหมู่ที่ 5 น้ำมัน และไขมัน จากพืชและสัตว์ (ไขมัน)
ที่มารูปภาพ : http://www.rakjung.com/healthy-no130.html
อาหารดี มีประโยชน์
1.นม นมเป็นแหล่งโปรตีนที่อุดมแคลเซียมร่างกายของผู้หญิงเราต้องการแคลเซียมไปใช้มากกว่าผู้ชายในการดูแลกระดูกให้แข็งแรง (โดยเฉพาะช่วงตั้งครรภ์ ช่วงให้นมแม่ หลังวัยหมดประจำเดือน) และเพื่อไม่เกิดปัญหากระดูกพรุนในภายหลัง จึงมีคำแนะนำให้ผู้หญิงดื่มนม เป็นประจำวันละ 2 แก้ว (เลือกแบบจืดชนิด low fat ) ทั้งนี้ก็เพื่อกระดูกที่แข็งแรงนั่นเอง
2.โยเกิร์ต ในโยเกิร์ตมีจุลินทรีย์ที่ช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายของเราทำงานอย่างสมบูรณ์ขึ้นด้วย แต่ที่สำคัญคือจะต้องเป็น โยเกิร์ตรสธรรมชาติที่ไม่เติมผลไม้เชื่อมหรือน้ำตาลลงไป เพราะนอกจากจะทำให้อ้วนแล้ว ความหวานยังไปทำลายจุลินทรีย์เสียหมด คุณค่าที่ต้อง การเลยหายวับไปอย่างน่าเสียดาย
3.น้ำมันมะกอก เป็นไขมันชนิดที่ไม่อิ่มตัว ซึ่งดีและเป็นประโยชน์กับสุขภาพ เพราะไปช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล LDL ซึ่งเป็น ไขมันในหลอดเลือดตัวอันตรายหรือไตรกรีเซอไรด์ รวมถึงช่วยลดความเสี่ยงในเรื่องของความดันโลหิตสูงได้อีกด้วย นอกจากนั้นยังมีวิตามิน E สารต้านอนุมูนอิสระ (antioxidant) ที่ช่วยบำรุงผิวให้สดใสอีกด้วย
4.เมล็ดทานตะวัน เป็นธัญพืชที่อุดมด้วยวิตามินอี และสารต้านอนุมูลอิสระ (antioxidant) ที่ช่วยต่อต้านริ้วรอย ชะลออายุของเซลล์ผิว จึงช่วยให้ผิวสดใส ดูยังเป็นสาวอ่อนวัย นอกจากนั้นวิตามินอียังจะช่วยลบเลือนรอยแผลเป็นให้จางลงไปได้ด้วย เพราะฉะนั้นจะกินเมล็ดทานตะวัน เป็นของงว่างหรือโรยหน้าสลัดจานโปรดก็ดีทั้งนั้นค่ะ
5.บล็อกโคลี นอกจากจะอร่อยแล้ว บล็อกโคลียังเป็นผักที่ให้วิตามินซี แคลเซียม เหล็ก ซึ่งล้วนมีประโยชน์กับร่างกายทั้งสิ้น นอกจาก นั้นยังมีกากใยช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานดี แต่สิ่งที่สำคัญคือต้องไม่ปรุงให้สุกมากเกินไปเพราะความร้อนจะทำให้คุณค่าวิตามินต่างๆ จะหาย ไปหมด
6.มะเขือเทศ เป็นแหล่งเบต้าแคโรทีน วิตามินซี และสารต้านอนุมูลอิสระ (antioxidant) ช่วยให้ระบบต่างๆ ในร่างกายทำงานได้ดี โดยเฉพาะระบบย่อย ที่สำคัญมีการวิจัยพบว่าการกินมะเขือเทศ (สดๆ ทั้งเปลือก) ช่วยลดอัตราเสี่ยงของการเป็นมะเร็งเต้านมและมะเร็งปอดได้ ใครที่เคยเมินมะเขือเทศรีบเปลี่ยนความคิดด่วนค่ะ
7.เต้าหู้ เป็นแหล่งโปรตีนสำคัญจากพืช จึงมีไขมันต่ำแถมแคลเซียมสูง ราคาก็ไม่แพง กินแล้วดีกับระบบย่อยอาหาร สบายท้อง นอกจากนั้นในเต้าหู้ยังมีสารที่ช่วยปรับระดับของฮอร์โมนเอสโตรเจนในร่างกายให้สมดุลอีกด้วย
8.น้ำสะอาด 60 % ของร่างกายมีน้ำเป็นส่วนประกอบ น้ำจึงมีส่วนสำคัญเกี่ยวข้องกับการทำงานของระบบต่างๆ ในร่างกาย และด้วย ความที่สำคัญอย่างนี้คุณๆ จึงควรดื่มน้ำให้ได้อย่างน้อยวันละ 8 แก้ว โดยขอย้ำว่าเป็นน้ำสะอาด ไม่ใช่น้ำหวาน น้ำอัดลม
อาหารบำรุงสมอง ในแต่ละวันเราต้องการวิตามินและแร่ธาตุต่างๆ อย่างครบถ้วนเพื่อให้ร่างกายแข็งแรงและมีสุขภาพดี ซึ่งสมอง และระบบประสาทก็เช่นเดียวกันที่ต้องการสารอาหารเฉพาะมาบำรุง ลองทบทวนดูสิว่าอาหารการกินของคุณนั้นมีสารอาหารที่เพียงพอแก่ความ ต้องการของสมองหรือไม่ ซึ่งสารอาหารที่เป็นที่ต้องการของสมองมีอยู่หลายชนิดด้วยกัน
ที่มาข้อมูล : http://www.rakjung.com/healthy-no130.html
www.sabayoihospital.go.th/index.php?option=com_content&view=article&id=96:อาหารดี มีประโยชน์ &catid=65:รอบรู้เรื่องอาหาร&Itemid=214
|