<< Go Back

          กระแสไฟฟ้า หรือ ไฟฟ้ากระแส คือ การไหลของอิเล็กตรอน ตัวอย่างของกระแสไฟฟ้า ได้แก่ ปรากฏการณ์ฟ้าผ่า, ลมสุริยะ (ทำให้เกิดแสงเหนือ-แสงใต้) คนส่วนใหญ่คุ้นเคยกับกระแสไฟฟ้าในรูปของการไหลของอิเล็กตรอนในตัวนำ เช่นในโลหะเป็นต้น ในวิชาอิเล็กทรอนิกส์นั้น กระแสไฟฟ้าหมายถึงการไหลของอิเล็กตรอนผ่านตัวนำและอุปกรณ์ต่างๆ เช่น ตัวต้านทาน และยังหมายถึงการไหลของไอออนในแบตเตอรี่ และการไหลของโฮลภายในสารกึ่งตัวนำด้วย ในวงจรไฟฟ้า ประจุไฟฟ้านี้จะถูกนำพาไปโดยการเคลื่อนที่ของอิเล็คตรอนในเส้นลวด หรืออาจถูกนำพาไปด้วยไอออนในสารอิเล็คโทรไลท์ หรือทั้งไอออนและอิเล็คตรอนในสารพลาสมา กระแสไฟฟ้ามีหน่วยวัดเป็นแอมแปร์ ซึ่งเป็นจำนวนของประจุไฟฟ้าที่ไหลผ่านจุดใดจุดหนึ่งต่อวินาที กระแสไฟฟ้าสามารถวัดได้โดยใช้แอมป์มิเตอร์ กระแสไฟฟ้าก่อให้เกิดผลหลายอย่าง เช่นความร้อน และยังก่อให้เกิดสนามแม่เหล็กอีกด้วย ซึ่งถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลายในมอเตอร์เหนี่ยวนำ, และเครื่องกำเนิดไฟฟ้า ตัวอย่างของกระแสไฟฟ้า ได้แก่ อิเล็กตรอนอิสระเคลื่อนที่ผ่านหน้าตัดหนึ่งจานวน 106 ตัว ในเวลา 10 วินาที จะมีกระแสไฟฟ้าเกิดขึ้นเท่าใด - - - - วิธีทา จากโจทย์ กระแสอิเล็กตรอน = Q = Nq = 106 x (1.6 x10-19 ) C = 1.6 x 106-19 C = 1.6 x 10-13 C

          การไหลของประจุบวกจะทำให้เกิดกระแสไฟฟ้าเหมือนกันและมีผลเช่นเดียวกันกับกระแสที่เกิดจากประจุลบที่ไหลในทิศทางตรงกันข้าม เนื่องจากกระแสไฟฟ้าอาจเกิดจากการไหลของประจุบวกหรือประจุลบ หรือทั้งสองอย่าง ความเข้าใจในทิศทางการไหลของกระแสจึงขึ้นอยู่ว่าประจุชนิดไหนที่ทำให้เกิดกระแส ทิศทางของกระแสด้วยความเข้าใจทั่วไปถูกกำหนดให้เป็นทิศทางของการไหลของประจุบวก ในโลหะที่ใช้ทำสายไฟหรือตัวนำอื่น ๆ ประจุบวกเคลื่อนที่ไม่ได้ ตัวที่เคลื่อนที่ได้คืออิเล็กตรอน ดังนั้น การเคลื่อนไหวของอิเล็กตรอนในตัวนำโลหะที่อยู่ในทิศทางที่ตรงข้ามกับกระแสไฟฟ้าตามความเข้าใจโดยทั่วไป กระแสไฟฟ้าหรือไฟฟ้ากระแสคือการไหลของปัจจุไฟฟ้า

กระแสแบ่งออกเป็นกระแสตรง (Direct Current) และกระแสสลับ (Alternating Current)

          กระแสตรง (DC) คือการไหลทิศทางเดียวของประจุไฟฟ้า กระแสตรงเกิดจากแหล่งที่มาเช่นแบตเตอรี่, เทอร์โมคัปเปิล, เซลล์แสงอาทิตย์และเครื่องกำเนิดไฟฟ้ากระแสตรงอื่นๆ กระแสตรงอาจไหลในตัวนำเช่นลวด แต่ยังสามารถไหลผ่านเซมิคอนดักเตอร์, ฉนวนหรือแม้กระทั่งผ่านสุญญากาศเช่นในลำแสงไอออน ประจุไฟฟ้าไหลในทิศทางที่คงที่แตกต่างไปจากกระแสสลับ (AC) กระแสตรงแทบไม่มีอันตราย ส่วนใหญ่ใช้ในอุปกรณ์อิเล็คโทรนิคส์ขนาดเล็ก ใช้กระแสต่ำ สามารถผลิตได้จากการนำกระแสสลับมาเปลี่ยนเป็นกระแสตรง เช่นที่ชาร์จโทรศัพท์มือถือ

          กระแสสลับ (AC หรือ ac), เป็นกระแสไฟฟ้าที่มีทิศทางการไหลของกระแสไฟฟ้ากลับไป-กลับมาอย่างรวดเร็ว เช่นไฟฟ้าที่ใช้ตามบ้านหรืออาคารทั่วไป รูปร่างเป็น sine wave ในบางอย่างอาจเป็นรูปสามเหลี่ยมหรือรูปสี่เหลี่ยม ส่วนใหญ่มีกระแสสูง อันตรายมาก สามารถผลิตจากไฟ DC ได้ แต่ในขนาดเล็ก เช่นเปลี่ยนจากไฟเซลล์แสงอาทิตย์มาเป็น AC เพื่อให้แสงสว่างหรือเปิดทีวีในพื้นที่ห่างไกล

          กระแสไฟฟ้าคือ ปริมาณประจุไฟฟ้าที่เลื่อนไหลในวงจรไฟฟ้าต่อหน่วยวินาที เรียกว่า ปริมาณกระแสไฟฟ้าไหล แอมแปร์ คือประจุไฟฟ้า 1 คูลอมบ์ เคลื่อนที่ผ่านพื้นที่หน้าตัดของขดลวดในเวลา 1 วินาที และหน่วยของกระแสไฟฟ้าเป็นแอมแปร์ เพื่อให้เป็นเกียรติแก่ อองเดร เอ็ม.แอมแปร์ (Andre Marie Ampere) นักฟิสิกส์ชาวฝรั่งเศส

ขอบคุณเว็บไซต์ : http://goo.gl/2zv5X

<< Go Back