<< Go Back

ประโยคคำถามในภาษาอังกฤษที่สามารถพูดคุยกันได้ง่าย ๆ นั้นก็คือ ประโยคที่ต้องการคำถามแบบยอมรับ หรือปฏิเสธ หรือที่เรียกว่า Yes/No Question ซึ่งเราจะได้เรียนรู้กันในวันนี้ค่ะ
Yes/No Question คำถามแบบรับและปฏิเสธ
ประโยคคำถาม (Interrogative Sentences)
ในการพบปะพูดคุยกันในตอนแรกๆ หรือเมื่อพบกันใหม่ๆ นั้น ส่วนมากมักจะเป็นการถามไถ่สารทุกข์สุกดิบกัน หรือถามเกี่ยวกับเรื่องราว หรือเหตุการณ์ต่างๆ ดังนั้น จึงใช้ประโยคคำถามคำตอบกันเป็นส่วนมาก จึงมีคำถามว่า เมื่อเราพบกันใหม่ๆ มักจะพูดใช้เสียงสระอะไรมากที่สุด คำตอบก็คือเสียงสระไอ ซึ่งก็คือคำถามนั้นเอง เช่นถามว่ามาเมื่อไร สบายดีไหม อยู่ที่ไหน มากับใคร จะเห็นว่าการเริ่มต้นในการพูดคุยสนทนานั้น มักจะเป็นการถามตอบกันเป็นส่วนใหญ่ ดังนั้น จึงอาจกล่าวได้ว่าประโยคคำถาม เป็นก้าวแรกที่นำไปสู่การสนทนาในรายละเอียด ฉะนั้นในที่นี้จึงเริ่มต้นศึกษากันด้วยประโยคคำถาม และเพราะประโยคคำถามนำไปใช้ในความหมายอื่นๆ ได้ด้วย ผู้ศึกษาจึงควรทำความเข้าใจให้ดี และใช้ให้ถูกต้อง
ประโยคคำถามมีหลายประเภท มีโครงสร้างและมีจุดมุ่งหมายใน การถามต่างกัน ซึ่งอาจจำแนกออกได้เป็น 5 ชนิด ดังนี้
1. Yes/No Question คำถามแบบรับและปฏิเสธ
2. Wh- question คำถามแบบใช้คำถาม
3. Alternative Question คำถามแบบให้เลือกเอา
4. Tag Question คำถามในท่อนหลัง
5. Indirect Question คำถามโดยอ้อมหรือคำถามปลอม ประโยคคำถามต่างๆ เหล่านี้ มีโครงสร้างต่างกัน ซึ่งจะกล่าวใน
รายละเอียดเป็นลำดับไป
Yes/No Question
ประโยคคำถามชนิดนี้ต้องการคำตอบรับ (Yes) หรือปฏิเสธ (No) เป็นการถามที่ผู้ถามอาจจะมีข้อมูลอยู่บ้างว่า น่าจะเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ ถามเพื่อให้ได้ความแน่ใจว่าเป็นจริงตามที่เข้าใจหรือเปล่า ลักษณะโครงสร้างที่สำคัญของคำถามชนิดนี้ก็คือ วางกริยาไว้ต้นประโยค การสร้างประโยคคำถามชนิดนี้อาจจำแนกออกตามประเภทของกริยาที่ช่วยในการสร้างประโยค ดังนั้น ในที่นี้จึงแยกออกเป็น 3 ชนิด คือ
1. ขึ้นต้นประโยคด้วยกริยา to be ถ้าในประโยคนั้นมีกริยาหลัก เป็น to be เมื่อสร้างเป็นประโยคคำถาม วางกริยา to be ไว้ต้นประโยคได้เลย เช่น
Are you hungry?
คุณหิวไหม
Is it very hot today?
วันนี้ร้อนมากใช่ไหม
Is your name Sharda?
คุณชื่อชาร์ดาใช่ไหม
Was the show interesting for you?
การแสดงน่าสนใจสำหรับคุณหรือไม่
Are you going to do exercises today?
วันนี้คุณจะทำแบบฝึกหัดหรือไม่
ประโยคเหล่านี้มีรูปเป็นบอกเล่าดังนี้
You are hungry.
It is very hot today.
Your name is Sharda.
The show was interesting for you.
You are going to do exercises today.
2. ขึ้นต้นประโยคด้วยกริยา to do ถ้าประโยคนั้นมีกริยาหลักไม่ใช่ to be ฌอสร้างเป็นประโยคคำถามต้องใช้กริยา to do มาช่วย และวางไว้ต้นประโยค โดยมีพจน์ (number) และกาล (tense) เช่นเดียวกันกับกริยาหลัก และเปลี่ยนกริยาหลักนั้นเป็นรูป infinitive คือรูปดั้งเดิมของกริยานั้น เช่น
Do you know his address?
คุณรู้ที่อยู่ของเขาไหม
Does she teach at your school?
เธอสอนอยู่ที่โรงเรียนคุณใช่ไหม
Does this bus go to the airport?
รถเมล์คันนี้ไปสนามบินใช่ไหม
Did you meet him at the party last night?
คุณพบเขาที่งานเลี้ยงเมื่อคืนนี้ไหม
Did he attend class yesterday?
เมื่อวานนี้เขาเข้าเรียนไหม
ประโยคคำถามเหล่านี้เปลี่ยนมาจากประโยคบอกเล่าดังนี้
You knows his address.
She teaches at your school.
This bus goes to the airport.
You met him at the party last night.
He attended class yesterday.
3. ขึ้นต้นประโยคด้วยกริยาช่วย (helping verb) อื่นๆ ถ้าในประโยคนั้นมีกริยาช่วยอยู่ด้วย เช่น will, can, may, would เมื่อเปลี่ยนเป็นประโยคคำถาม วางกริยาช่วยไว้ต้นประโยคได้เลย ถ้ามีกริยาช่วยหลายตัว นำเฉพาะกริยาช่วยตัวแรกไปวางต้นประโยค เช่น
Can you speak Thai?
คุณพูดไทยได้ไหม
May I help you?
ฉันจะช่วยเอาไหม
Shall we go shopping after class?
เลิกเรียนแล้วไปหาซื้อของกันไหม
Will she come back here next week?
เธอจะกลับมาที่นี่สัปดาห์หน้าใช่ไหม
Could you lend me this book for two days?
คุณจะกรุณาให้ฉันยืมหนังสือเล่มนี้สักสองวันได้ไหม
Have you been to Chiang Mai?
คุณเคยไปเชียงใหม่หรือไม่
Should he be informed of the news?
ควรจะแจ้งข่าวให้เขาทราบไหม
ประโยคคำถามเหล่านี้มีรูปเป็นบอกเล่าดังนี้
You can speak Thai.
I may help you.
We shall go shopping after class.
She will come back here next week.
You could lend me this book for two days.
You have been to Chiang Mai.
He should be informed of the news.
ประโยคคำถามเหล่านี้สามารถสร้างเป็นรูปปฏิเสธได้ เรียกว่า คำถามปฏิเสธ (Interrogative Negative หรือ Negative Question) ซึ่งโดยทั่วไปแล้วจะแยกกล่าวไว้เป็นอีกชนิดหนึ่งต่างหาก เพื่อจะได้ศึกษาอย่างละเอียด แต่ในที่นี้ เพราะเห็นว่าเป็นประโยคที่มีโครงสร้างอย่างเดียวกัน เพียงเติม not เข้ามาเท่านั้น ซึ่งเป็นเครื่องหมายปฏิเสธ ดังนั้น จึงนำมากล่าวไว้ด้วยกัน เพื่อจะได้ศึกษาทำความเข้าใจไปพร้อมกัน ฉะนั้นประโยคคำถามต่างๆ ที่ กล่าวมาแล้วนั้น สามารถสร้างเป็นคำถามปฏิเสธได้ดังนี้
Aren't you hungry? (Are you not hungry?)
คุณไม่หิวใช่ไหม
Isn't it very hot today? (Is it not very hot today?)
วันนี้ไม่ร้อนมากใช่ไหม
Wasn't the show interesting for you?
การแสดงไม่เป็นที่น่าสนใจสำหรับคุณใช่ไหม
Don't you know his address?
คุณไม่รู้ที่อยู่เขาใช่ไหม
Didn't he attend class yesterday?
เมื่อวานนี้เขาไม่เข้าเรียนใช่ไหม
Can't you speak Thai?
คุณพูดภาษาไทยไม่ได้ใช่ไหม
Won't she came back here next week?
สัปดาห์หน้าเธอจะไม่กลับมาที่นี่ใช่ไหม
Haven't you been to Chiang Mai?
คุณไม่เคยไปเชียงใหม่ใช่ไหม
Shouldn't he be informed of the news?
ไม่ควรแจ้งข่าวให้เขาทราบใช่ไหม
Couldn't you lend me this book for two days?
คุณจะไม่ให้ฉันยืมหนังสือเล่มนี้สักสองวันใช่ไหม
การตอบคำถามแบบ Yes/No Question
ดังได้กล่าวแล้วคือ คำถามประเภทนี้ต้องการคำตอบรับ (yes) หรือปฏิเสธ (no) การตอบคำถามชนิดนี้อาจจำแนกกล่าวได้เป็น 2 แบบ

 

 


http://www.engisfun.com/ประโยคคำถามแบบyesno-question/

<< Go Back