ในชีวิตประจำวันเราได้ยินเสียงอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าเราจะตั้งใจฟังอยู่หรือไม่ก็ตาม เสียงที่เราได้ยินไม่ว่าจะเป็นเสียงคนพูดคุยกัน เสียงสัตว์ต่าง ๆ เสียงใบไม้ไหว เสียงลมพัด เสียงน้ำตก เสียงจากเครื่องดนตรี เสียงเครื่องจักรเครื่องยนต์ต่าง ๆ ต้องมีแหล่งกำเนิดเสียงเสมอ และแหล่งกำเนิดของเสียงมาจากการกระทบของวัตถุ ที่ทำให้เกิดการสั่นสะเทือนจนเป็นคลืนเสียงที่เดินทางเข้าสู่หูของเรา ภาพ : shutterstock.com เครื่่องดนตรีอาจแบ่งได้เป็น เครื่องดีด เครื่องสี เครื่องตี และเครื่องเป่า แต่ทุกชนิดล้วนสร้างเสียงจากการสั่นสะเทือนทั้งสิ้น เครื่องดีดสร้างเสียงจากการสั่นของเส้นเอ็นที่ถูกดีดในขณะที่ถูกขึงจนตึง เครื่องสีก็เช่นกัน แต่การสั่นสะเทือนจะเกิดจากแรงเสียดทานเวลาสี เครื่องตีสร้างเสียงจากกระสั่นสะเทือนของของแข็งเมื่อถูกกระทบ ส่วนเครื่องเป่าสร้างเสียงการจากสั่นไหวที่เกิดจากการเคลื่อนที่ของอากาศผ่านช่องว่างของของแข็ง เสียงพูดคุยของมนุษย์หรือเสียงร้องคำรามของสัตว์ ก็เกิดจากการสั่นสะเทือนของกล่องเสียงในลำคอนั่นเอง โดยใช้ลมเป็นตัวทำให้กล่องเสียงเกิดการสั่นขึ้น ส่วนในสัตว์ที่ไม่มีกล่องเสียง เช่น แมลงบางชนิด ก็สามารถสร้างเสียงได้จากการสั่นของปีกที่เสียดสีกันอย่างจิ้งหรีด หรือการสั่นที่เกิดจากการเสียดสีของขาคู่หลังอย่างตั๊กแตนบางสายพันธุ์ เมื่อเราพิจารณาดู จะเห็นได้ว่า เสียงเกิดขึ้นเมื่อมีการเคลื่อนที่ของวัตถุในรูปแบบการสั่น คือ เมื่อวัตถุกระทบกัน ก็จะเกิดการสั่นไหวที่ตัววัตถุนั้น และการสั่นของวัตถุนั้นก็จะถูกส่งผ่านมายังหูของเราในรูปแบบคลื่นเสียงนั่นเอง โดยเรียกวัตถุที่ทำให้เกิดเสียงนั้นว่า “แหล่งกำเนิดเสียง” ขอบคุณที่มา https://www.trueplookpanya.com/learning/detail/33041 |