การให้เหตุผล คือ การอ้างหลักฐานเพื่อยืนยันว่าข้อสรุปนั้นเป็นความจริง ซึ่งการให้เหตุผลในแต่ละครั้งจะมีส่วนประกอบอยู่ 2 ส่วน คือ
1. ส่วนที่เป็นข้ออ้าง (หลักฐานหรือเหตุผล)
2. ส่วนที่เป็นข้อสรุป (ผล หรือ สิ่งที่เราต้องการบอกว่าเป็นจริง)
ในการอ้างเหตุผลแต่ละครั้งอาจจะเขียนข้อสรุปขึ้นก่อนข้ออ้าง หรือจะเขียนข้ออ้างขึ้นก่อนข้อสรุปก็ได้
ประเภทของการให้เหตุผล โดยทั่วไปมีอยู่ 2 ประเภท
1. การให้เหตุผลแบบอุปมัย
เป็นการให้เหตุผลโดยอ้างหลักฐานจากประสบการณ์ นั่นคือการที่เชื่อว่าสิ่งนั้นๆ เป็นจริง ก็เพราะเคยมีประสบการณ์มาก่อน เมื่อมีประสบการณ์แบบเดียวกันหลายๆ ครั้ง จึงสรุปว่าเป็นกฎหรือเป็นความจริงทั่วๆ ไป เกี่ยวกับสิ่งนั้น แต่การสรุปความจริงด้วยวิธีการอุปมัยนี้ต้องระมัดระวังเป็นอย่างมาก เพราะอาจเกิดผิดพลาดได้ง่าย
2. การให้เหตุผลแบบนิรนัย
เป็นการให้เหตุผลโดยนำเอาความจริงจากความรู้เดิม มาพิจารณาตามหลักเหตุผล แล้วสรุปความจริงใหม่ออกมา โดยไม่ต้องอาศัยการทดลอง หรือการสังเกตจากประสบการณ์
ข้อสรุปที่สมเหตุสมผล หมายถึงข้อสรุปที่เป็นจริงและสอดคล้องกับเหตุ โดยที่เหตุจะต้องเป็นจริงทุกข้อ ดังนั้นในการตรวจสอบว่าข้อสรุปใด "สมเหตุสมผล" หรือไม่ จะต้องเริ่มจาก "เหตุที่เป็นจริงทุกข้อ" แล้วใช้เหตุที่เป็นจริงแต่ละข้อตรวจสอบว่า "ข้อสรุป" เป็นจริงหรือไม่ ถ้าตรวจสอบแล้วพบว่าข้อสรุปเป็นจริงเสมอ จะได้ว่า "ข้อสรุปนั้นสมเหตุสมผล" ถ้าตรวจสอบแล้วพบว่า "ข้อสรุปนั้นเป็นเท็จ" หรือเป็นเท็จบางครั้ง จะได้ข้อสรุปว่า "ไม่สมเหตสมผล"
ตัวอย่างที่ 1 จงตรวจสอบว่าการให้เหตุผลต่อไปนี้ สมเหตุสมผลหรือไม่
เหตุ 1. p -> q
2. ~p ->r
3. ~q
ผล r
วิธีทำ ตรวจสอบว่า [(p -> q) ^ (~p ->r) ^ (~q)] -> r เป็นสัจนิรันดร์หรือไม่
วิธีที่ 1 สร้างตารางค่าความจริง
p |
q |
r |
p -> q |
~p -> r |
[(p -> q) ^ (~p ->r) |
[(p -> q) ^ (~p ->r)] ^ (~q) |
[(p -> q) ^ (~p ->r) ^ (~q)] -> r |
T |
T |
T |
T |
T |
T |
F |
T |
T |
T |
F |
T |
T |
T |
F |
T |
T |
F |
T |
F |
T |
F |
F |
T |
T |
F |
F |
F |
T |
F |
F |
T |
F |
T |
T |
T |
T |
T |
F |
T |
F |
T |
F |
T |
F |
F |
F |
T |
F |
F |
T |
T |
T |
T |
T |
T |
F |
F |
F |
T |
F |
F |
F |
T |
แสดงว่า [(p -> q) ^ (~p ->r) ^ (~q)] -> r เป็นสัจนิรันดร์
วิธีที่ 2 พิจารณาค่าความจริงบางกรณี
ให้ [(p -> q) ^ (~p ->r) ^ (~q)] มีค่าความจริงเป็นจริง
จะได้ (p -> q) (เป็นจริง) ^ (~p ->r) (เป็นจริง) ^ (~q) (เป็นจริง)
ซึ่งทำให้ได้ว่า q มีค่าความจริงเป็นเท็จ
เนื่องจาก p -> q ≡ T และ q ≡ F
ดังนั้น p มีค่าความจริงเป็นเท็จ
เนื่องจาก ~p -> r ≡ T และ p ≡ F
ดังนั้น r มีค่าความจริงเป็นจริง
จึงสรุปได้ว่า การให้เหตุผลนี้ สมเหตุสมผล
การอ้างเหตุลผที่สมเหตุสมผลนั้น อาศัยสัจนิรันดร์เป็นหลัก โดยนิยมเขียนในรูปของการให้เหตุผล ดังต่อไปนี้
- การแจงผลตามเหตุ
- การแจงผลค้านเหตุ
- กฎของตรรกบท
- ตรรกบทแบบคัดออก
- การอนุมานร่วม
- การอนุมานโดยกรณี
- กฎของการทำให้ง่าย
- กฎของข้อความแย้งสลับที่
ตัวอย่างการให้หตุผลตามรูปแบบต่างๆ
1. การแจงผลตามเหตุ
ถ้า a เป็นจำนวนคู่ แล้ว a2 เป็นจำนวนคู่
a เป็นจำนวนคู่
ดังนั้น a เป็นจำนวนคู่
2. การแจงผลค้านเหตุ
ถ้า a เป็นจำนวนเฉพาะ แล้ว a เป็นจำนวนเต็ม
a ไม่เป็นจำนวนเต็ม
ดังนั้น a ไม่เป็นจำนวนเฉพาะ
3. กฎของตรรกบท
ถ้า a เป็นจำนวนเต็ม แล้ว a เป็นจำวนตรรกยะ
a เป็นจำนวนตรรกยะ แล้ว a เป็นจำนวนจริง
ดังนั้น ถ้า a เป็นจำนวนเต็ม แล้ว a เป็นจำนวนจริง
4. ตรรกบทแบบคัดออก
ถ้า a เป็นจำนวนเต็ม หรือ a เป็นจำนวนอตรรกยะ
a ไม่เป็นจำนวนตรรกยะ
ดังนั้น a เป็นจำนวนอตรรกยะ
5. การอนุมานร่วม
a เป็นจำนวนเต็ม
a มากกว่า b
ดังนั้น a เป็นจำนวนเต็มที่มากกว่า b
6. การอนุมานโดยกรณี
ถ้า a เป็นจำนวนคู่ แล้ว a2 + a เป็นจำนวนคู่
ถ้า a เป็นจำนวนคี่ แล้ว เป็นจำนวนคู่
ดังนั้น ถ้า a เป็นจำนวนคู่หรือจำนวนคี่ แล้ว a2 + a เป็นจำนวนคู่
นั่นคือ ถ้า a เป็นจำนวนเต็ม แล้ว a2 + a เป็นจำนวนคู่
7. กฎของการทำให้ง่าย
a เป็นจำนวนเฉพาะที่เป็นบวก
ดังนั้น a เป็นจำนวนเฉพาะ
8. กฎของข้อความแย้งสลับที่
ถ้า abc เป็นรูปสามเหลี่ยมด้านเท่า แล้ว abc เป็นรูปสามเหลี่ยมหน้าจั่ว
ดังนั้น ถ้า abc ไม่ใช่รูปสามเหลี่ยมหน้าจั่ว แล้ว abc ไม่ใช่รูปสามเหลี่ยมด้านเท่า
ตัวอย่างที่ 2 จงตรวจสอบว่า การให้เหตุผลต่อไปนี้ สมเหตุสมผลหรือไม่
เหตุ 1. ถ้าฝนตกแล้วอากาศจะเย็น
2. ถ้ามีอากาศเย็นแล้วมีลมแรง
3. ฝนตก
ผล มีลมแรง
วิธีทำ ให้ p แทนข้อความ ฝนตก
q แทนข้อความ อากาศเย็น
r แทนข้อความ มีลมแรง
ดังนั้น เหตุ คือ 1. p -> q
2. q -> r
3. p
ผล r
จากการพิจารณารูปแบบข้างต้น เราจะสามารถสรุปได้ว่า การให้เหตุผลนี้สมเหตุสมผล เนื่องจากสอดคล้องกับรูปแบบที่ 3 กับ 1 กล่าวคือ
ดังนั้น เหตุ คือ 1. p -> q กำหนดให้
2. q -> r กำหนดให้
3. p -> r 1, 2 และรูปแบบ 3
4. p กำหนดให้
ผล r 3, 4 และรูปแบบ 1
http://www.scimath.org/socialnetwork/groups/viewbulletin/466-4+การให้เหตุผล?groupid=134
|