<< Go Back

ย่อว่า จ.ศ.  ตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ.1182  โดยพระเจ้าโพพาสอระหัน  กษัตริย์พม่า

          จุลศักราช 1  ตรงกับ  พ.ศ. 1182  จุลศักราชจึงน้อยกว่าพุทธศักราช 1181 ปี

          การเทียบเปลี่ยนจุลศักราชกับพุทธศักราช  คือ  พ.ศ.  =  จ.ศ.  +  1181  และ  จ.ศ.  =  พ.ศ.  – 1181

          ในสมัยโบราณ  การนับวันขึ้นปีใหม่ของจุลศักราชใช้แบบจันทรคติ  จึงไม่สามารถระบุวันที่แน่นอนได้   โดยกฎคัมภีร์สุริยยาตรระบุว่า  วันขึ้นปีใหม่อยู่ระหว่างขึ้น 6 ค่ำ เดือน 5  ถึง 5 ค่ำ เดือน 6  ในปัจจุบันนี้เพื่อความสะดวกจึงกำหนดจุลศักราชขึ้นปีใหม่กลางเดือนเมษายน  เทศกาลเนื่องในการขึ้นจุลศักราชใหม่  เรียกว่า  "สงกรานต์"  มี 3 วัน  คือวันที่ 13 เมษายน  เรียกว่า  "วันมหาสงกรานต์"  วันที่ 14  เมษายน  เรียกว่า  "วันเนา"  และวันที่ 15 เมษายน  เรียกว่า  "เถลิงศก หรือวันขึ้นปีใหม่"  

          ไทยใช้จุลศักราชในการคำนวณทางโหราศาสตร์  ใช้บอกปีในจารึก   ตำนาน  จดหมายเหตุ  พระราชพงศาวดาร  และเอกสารราชการ  จนกระทั่งถึงสมัยรัชกาลที่ 5 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์  จึงเลิกใช้และใช้รัตนโกสินทร์ศกแทน

การเรียกศกตามเลขท้ายปี

          ในระบบการเรียกศกตามเลขท้ายปีจุลศักราช นิยมเรียกด้วยศัพท์บาลี ดังนี้

                    1. ปีจุลศักราชที่ลงท้ายเลข 1 เรียก "เอกศก"

                   2. ปีจุลศักราชที่ลงท้ายเลข 2 เรียก "โทศก"

                   3. ปีจุลศักราชที่ลงท้ายเลข 3 เรียก "ตรีศก"

                   4. ปีจุลศักราชที่ลงท้ายเลข 4 เรียก "จัตวาศก"

                   5. ปีจุลศักราชที่ลงท้ายเลข 5 เรียก "เบญจศก"

                   6. ปีจุลศักราชที่ลงท้ายเลข 6 เรียก "ฉศก"

                   7. ปีจุลศักราชที่ลงท้ายเลข 7 เรียก "สัปตศก"

                   8. ปีจุลศักราชที่ลงท้ายเลข 8 เรียก "อัฐศก"

                   9. ปีจุลศักราชที่ลงท้ายเลข 9 เรียก "นพศก"

                    10. ปีจุลศักราชที่ลงท้ายเลข 0 เรียก "สัมฤทธิศก"


http://warakorntaxiballza.blogspot.com/2010/05/blog-post_9604.html

 

<< Go Back