<< Go Back
            คำว่า "ตลาดหุ้น" หมายความว่าอย่างไร? ตลาดหุ้น หรือ ตลาดหลักทรัพย์ (ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย: The Stock Exchange of Thailand หรือ SET) คือตลาดศูนย์กลางการซื้อขายหลักทรัพย์ เช่นหุ้นสามัญ หุ้นบุริมสิทธิ หุ้นกู้ และวอร์แรนท์ เป็นต้น ซึ่งประกอบไปด้วยบริษัทต่าง ๆ ที่ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยถูกควบคุมดูแลโดยสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. การซื้อขายหลักทรัพย์ต่าง ๆ สามารถทำได้โดยผ่านบริษัทหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยใช้ดัชนีเป็นหน่วยวัดเรียกว่า (SET INDEX) คือตัวเลขที่สะท้อนความเคลื่อนไหวของราคาหลักทรัพย์ทั้งหมดในตลาด มีหน่วยวัดเรียกเป็นจุด
             เวลาทำการซื้อขายของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) คือตั้งแต่วันจันทร์ถึงวันศุกร์ (ยกเว้นวันหยุดราชการ) โดยแบ่งเป็นสองเวลาคือ ช่วงเช้าและช่วงบ่าย ได้แก่ 10 โมงถึงเที่ยงครึ่ง (10.00 – 12.30) – Morning Trading Session – และบ่าย 2 ครึ่งถึง 4 โมงครึ่ง (14.30 – 16.30) – Afternoon Trading Session – มีช่วงพักครึ่งวันเป็นเวลา 2 ชั่วโมง (Intermission) ตั้งแต่ 12:30 – 2:30

             ตลาดหุ้นคืออะไร ทำไมถึงต้องมีตลาดหุ้นด้วย? ตลาดหุ้น คือ  ศูนย์กลางการซื้อขายหลักทรัพย์ ลองอ่านความหมายของตลาดหุ้นตรงนี้ก่อน! ในบทความนี้เราจะอธิบายถึงพื้นฐานเกี่ยวกับตลาดหุ้นอย่างง่าย ๆ หากลองย้อนกลับไปเรื่องกิจการร้านอาหารไทยในบทความที่แล้ว (หุ้นคืออะไร?) คุณต้องการผู้ร่วมลงทุน แต่คุณไม่รู้จะไปหานักลงทุนเหล่านั้นจากที่ไหน คุณอาจหาเพื่อนหรือคนในครอบครัวมาร่วมลงทุนก็เป็นได้ แต่หากวันนึงผู้ร่วมลงทุนต้องการขายหุ้นทิ้งไปล่ะ? พวกเขาก็ต้องออกตระเวนหานักลงทุนรายใหม่เพื่อที่จะขายหุ้นให้ ซึ่งเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยุ่งยาก โดยเฉพาะกิจการที่ไม่ได้มีอะไรโดดเด่นเป็นพิเศษ ตลาดหุ้นสามารถแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้
             Supermarket (ซุปเปอร์มาร์เก็ต) คือ สถานที่ขายอาหาร เหตุผลที่คุณต้องไปซุปเปอร์มาร์เก็ตก็เพราะมันรวมอาหารทุก ๆ อย่างเอาไว้ในที่เดียวกัน มันง่ายกว่าการขับรถไปซื้อเนื้อที่ร้านขายเนื้อสด แล้ววนไปร้านขายผัก หรือร้านเฉพาะทางต่าง ๆ ตลาดหุ้นก็คือซุปเปอร์มาร์เก็ตสำหรับหุ้น ให้ลองจินตนาการว่า SET (ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย) คือห้องใหญ่ ๆ ห้องนึงที่ทุกคนสามารถเข้าไปทำการซื้อหุ้นหรือขายหุ้นก็ได้ การซื้อขายหุ้นทุกวันนี้เป็นเรื่องที่ง่ายมาก เราไม่ต้องเดินทางไปตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเพื่อซื้อขายหุ้น แค่เปิดบัญชีกับโบรกเกอร์ก็สามารถซื้อขายผ่านการโทรสั่งเจ้าหน้าที่การตลาด หรือส่งคำสั่งซื้อขายโดยตรงผ่านอินเตอร์เน็ตเพื่อความรวดเร็วและยังประหยัดค่าคอมอีกด้วย
             สมมุติว่าเราอยากซื้อสินค้าชิ้นนึงจาก Amazon เราก็จะค่อย ๆ หาไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะเจอราคาที่เราพอใจ ผู้ขายอาจไม่สามารถรู้ได้เลยว่าราคาที่เหมาะสมคือเท่าไหร่ ถ้าขายได้น้อยแสดงว่าราคาสูงเกินไปหรือว่าสินค้าไม่ดีกันแน่? รูปแบบการขายนี้ทำให้ผู้ซื้อเป็นฝ่ายได้เปรียบ เพราะว่ารู้ราคาของผู้ขาย แต่ผู้ขายไม่รู้ราคาของผู้ที่สนใจจะซื้อ
             ในทางกลับกันหากเราอยากซื้อสินค้าชิ้นนึงจาก ebay เราจะต้องไป Bid (ประมูล) แข่งกับผู้ซื้อคนอื่น ๆ และจะไม่เห็น reserve price (ราคาขั้นต่ำที่ผู้ขายต้องการขาย) จะเห็นได้ว่าผู้ขายเป็นฝ่ายได้เปรียบเนื่องจากสามารถเห็น demand ของผู้ซื้อได้ในขณะที่ผู้ซื้อไม่รู้ราคาขั้นต่ำของผู้ขาย ebay และ Amazon จึงมีรูปแบบที่คล้ายคลึงกันคือ Demand ของผู้ซื้อ และ Supply ของผู้ขาย แต่ทั้งสองมีข้อจำกัดที่คล้าย ๆ กันคือ
             1. ความโปร่งใสทั้งฝั่งผู้ซื้อและฝั่งผู้ขาย
             2. ความกระจัดกระจาย ผู้ซื้อและผู้ขายต้องหากันให้เจอก่อนที่จะเริ่มซื้อขายกันได้
             แต่หลักการทำงานของ ตลาดหุ้น ไม่เหมือนกับตลาดด้านบนที่กล่าวมา ราคาของฝั่งผู้ซื้อและผู้ขายนั้นโปร่งใส โดยฝ่ายผู้ซื้อต้องตั้งราคาเสนอซื้อ (Bid) และฝ่ายผู้ขายต้องตั้งราคาเสนอขาย (Offer) ตลาดหุ้นมีที่ซื้อขายเพียงที่เดียวเท่านั้นสำหรับหุ้นแต่ละตัว ดังนั้นผู้ซื้อและผู้ขายจึงไม่จำเป็นต้องหากันให้เจอก่อน ความกระจัดกระจายของแหล่งที่ขายจึงไม่มี ราคาจะเป็นไปตามกลไกการของตลาด การซื้อขายที่เกิดขึ้นในตลาดหุ้นจะถูกจับคู่ให้เองโดยอัตโนมัติ (ตามคิว) หลังจากที่ผู้ซื้อและผู้ขายส่งคำสั่ง Bid และ Offer
             ยกตัวอย่างการซื้อขาย iPhone ในรูปแบบของตลาดหุ้น: หากผู้ที่ต้องการขายไอโฟนทุกคนตั้งราคาเสนอขายที่ (101, 102, 103, 104 ดอลล่าร์) และผู้ที่ต้องการซื้อไอโฟนทุกคนตั้งราคาเสนอซื้อที่ (99, 98, 97, 96 ดอลล่าร์) การซื้อขายก็จะไม่เกิดขึ้น ผู้ซื้อและผู้ขายจะถูกจับคู่ซื้อขายก็ต่อเมื่อราคาตรงกันเท่านั้น (ราคาที่ทั้งสองฝั่งพึงพอใจ) เช่นผู้ซื้อตั้ง bid ที่ 100 และผู้ขายตั้ง offer ที่ 100 ทั้งสองคนก็จะถูกจับคู่ (การซื้อขายเกิดขึ้นโดยอัตโนมัติ) ราคาที่มีการซื้อขายเกิดขึ้นล่าสุดของ iPhone ก็จะเท่ากับ 100 ดอลล่าร์ จะเห็นได้ว่าการจับคู่ซื้อขายจะเกิดขึ้นต่อเมื่อทั้งสองฝั่งสามารถตกลงราคากันได้เท่านั้น
             หากลองมองย้อนกลับไปในอดีตเราสามารถสังเกตุได้ถึงความสัมพันธ์ของ SET Index และเศรษฐกิจของประเทศไทยที่เคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกันโดยตลอดมา อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นเป็นตลาดแห่งอนาคตที่เต็มไปด้วยการคาดการณ์ ราคาของหุ้นในตลาดจึงสามารถรับรู้เหตุการณ์ต่างๆ ล่วงหน้าได้ (สามารถรับผลกระทบจากเหตุการณ์ที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง) ซึ่งอาจส่งผลให้ราคาหุ้นวิ่งขึ้นลงสวนกระแสเศรษฐกิจในภาพรวมเป็นระยะ ๆ ได้


ขอบคุณเว็บไซต์  http://hoondb.com//ตลาดหุ้น/
                             http://hoondb.com/ตลาดหุ้นคืออะไร/

<< Go Back