ในโปรแกรม Photoshop ทุกเวอร์ชั่นมีการสร้าง Layer เพื่อใช้งานในการจัดวางภาพที่ซ้อนกันอยู่ให้สะดวกในการจัดวางภาพที่วางซ้อนกันนั้นให้ทำงานได้เฉพาะส่วน หรือเฉพาะชั้นที่เราเลือกได้อย่างอิสระต่อกัน ไม่มีผลกระทบกับส่วนอื่น หรือ ชั้นอื่น ๆ ซึ่งผู้เรียนจำเป็นจะต้องเรียนรู้การทำงานของ Layer เพื่อจะได้ทำความเข้าใจกับโปรแกรม Photoshop CS5 ได้มากยิ่งขึ้น เลเยอร์ Layer เป็นการซ้อนภาพเหมือนกับนำแผ่นใสที่มีภาพซ้อนทับกันเป็นชั้น ๆ ซึ่งบริเวณของแผ่นใสที่ไม่มีรูปก็จะสามารถมองเห็นทะลุถึงแผ่นใสชั้นล่างได้ และเมื่อนำทุกแผ่นใสมาวางซ้อนทับกัน จะทำให้เกิดเป็นรูปภาพที่สมบูรณ์ การใช้งานเลเยอร์จะช่วยให้เราจัดวางวัตถุ หรือชิ้นงานที่สร้างจากโปรแกรมได้ง่าย เนื่องจากแต่ละเลเยอร์ทำงานเป็นอิสระต่อกัน มีคุณสมบัติต่าง ๆ เป็นของตนเอง จึงทำให้การแก้ไขที่ทำไปแต่ละเลเยอร์นั้นไม่ส่งผลต่อเลเยอร์อื่น ๆ ซึ่งการทำงานของเลเยอร์จะมีพาเนล Layer Panel ควบคุมการทำงานทุกอย่างของเลเยอร์ไว้ ไม่ว่าจะเป็นการเลือก เพิ่ม/ลบ เปลี่ยนลำดับของเลเยอร์ ฯลฯ เมื่อใช้เลเยอร์ก็จะต้องระวังว่าคำสั่งต่างๆส่วนใหญ่จะมีผลต่อภาพในเลเยอร์ที่กำลังเลือกเท่านั้น ดังนั้นจึงต้องสังเกตและเลือกเลเยอร์ที่ถูกต้องก่อนการทำงานใดๆ โดยก่อนที่ผู้เรียนจะทำงานกับเลเยอร์ผู้เรียนจะต้องเรียกใช้พาเนล Layer ก่อน โดยให้คลิกเมนูคำสั่ง Window คลิกเมาส์ที่ชื่อพาเนล Layers หลังจากนั้นจะปรากฏ Layer Palette บนโปรแกรมดังรูป คำอธิบายปุ่มคำสั่งในเลเยอร์ กำหนดภาพในเลเยอร์เป็นแบบโปร่งใส เมื่อเปิดไฟล์ภาพทั่วไปขึ้นมาใช้งาน ภาพนั้นจะอยู่ในเลเยอร์ชื่อ Background ซึ่งเป็นเลเยอร์พิเศษที่แตกต่างจากเลเยอร์ธรรมดา คือ ใน Photoshop สามารถสร้างเลเยอร์ธรรมดาซ้อนบนเลเยอร์ Background เพื่อใช้สำหรับวาดภาพใหม่ หรือ Copy ชิ้นส่วนภาพที่อื่นมาวางซ้อนลงไป ตลอดจนสามารถแปลงเลเยอร์ Background เป็นเลเยอร์ธรรมดาหรือกลับกันก็ได้ การสร้างเลเยอร์ใหม่ ผู้เรียนสามารถสร้างเลเยอร์ขึ้นมาใหม่เพื่อใช้ในการจัดเก็บวัตถุ ไม่ว่าจะเป็นรูปภาพ หรือข้อความ โดยมีขั้นตอนดังนี้ - Name ใช้กำหนดชื่อเลเยอร์ เมื่อทำการสร้างเลเยอร์ใหม่ในโปรแกรมจะมีชื่อเป็น Layer 1,2,3…เรียงขึ้นไปเรื่อย ๆ ตามลำดับ ถ้าต้องการเปลี่ยนชื่อของเลเยอร์ให้สอดคล้องกับวัตถุในเลเยอร์นั้นเพื่อจะได้สื่อความหมายและจำง่าย ผู้เรียนสามารถที่จะเปลี่ยนชื่อของเลเยอร์ได้ โดยมีขั้นตอนดังนี้ ในการทำงานต่างๆ ส่วนใหญ่ต้องเลือกเลเยอร์ที่จะใช้ให้ถูก มิฉะนั้นจะไม่ได้ผลตามที่ต้องการ โดยสามารถเลือกเลเยอร์ได้คราวละหลายเลเยอร์ โดย สามารถใช้เครื่องมือ Move ย้ายตำแหน่งของภาพในเลเยอร์ต่างๆ (ยกเว้นเลเยอร์ Background) เพื่อจัดองค์ประกอบภาพโดยรวม ซึ่งทำได้ 2 วิธีคือ การย้ายภาพ หรือการ Move วัตถุข้ามไฟล์ ซึ่งจะเรียกว่า การลากข้ามไฟล์ โดยที่การย้ายวัตถุไปอีกไฟล์หนึ่งจะสร้าง Layer ขึ้นมาใหม่โดยอัตโนมัติ ซึ่งในการคัดลอกเลเยอร์ หรือ การย้ายวัตถุนี้จะเป็นการสร้างเลเยอร์ใหม่ให้โดยอัตโนมัติ โดยมีขั้นตอนดังนี้ 3. คลิกเมาส์เลือกวัตถุ Move Tool บน Toolbox เราสามารถซ่อนเลเยอร์ที่ยังไม่ใช้งานไว้ก่อน เพื่อให้แก้ไขเลเยอร์ที่ถูกบังอยู่ได้สะดวก หรืออาจจะซ่อน / แสดงเลเยอร์เพื่อทดลองดูการจัดองค์ประกอบภาพแบบต่างๆ ว่าแบบใดดีที่สุด ซึ่งในการบันทึกภาพเพื่อนำไปใช้ (เช่นไฟล์ TIF หรือ JPG) ภาพที่ได้จะเป็นไปตามเลเยอร์ที่ถูกแสดงอยู่ ณ ขณะบันทึกเท่านั้น การคัดลอกวัตถุในโปรแกรมสามารถทำได้ 2 วิธี คือ การคัดลอกภายในไฟล์ กับ คัดลอกภายนอกไฟล์ ซึ่งการคัดลอกทั้ง 2 แบบนี้จะได้ Layer ใหม่เพิ่มขึ้นมาเช่นเดียวกัน มีขั้นตอนดังนี้ 3. คลิกเลือกเมนูคำสั่ง Edit เลือกคำสั่ง Copy การคัดลอกภายในไฟล์ 2. คลิกเลือกเมนูคำสั่ง Edit เลือกคำสั่ง Copy เมื่อเราต้องการดูว่าขณะนี้เรากำลังทำงานอยู่ที่เลเยอร์ใดสังเกตว่าจะมีแถบสีน้ำเงินคลุมอยู่ที่เลเยอร์นั้น และการย้ายตำแหน่งวัตถุในเลเยอร์นั้นสามารถทำได้โดยคลิกเลือกเครื่องมือ Move Tool บน Toolbox จากนั้นคลิกในช่องสี่เหลี่ยมให้มีเครื่องหมายถูกที่คำสั่ง เมื่อเราสร้างเลเยอร์ไว้ใช้งานหลาย ๆ เลเยอร์แล้ว และต้องการจะเปลี่ยนลำดับชั้นของ 2. คลิกเมาส์ที่เลเยอร์ที่ต้องการเลื่อนลำดับขึ้น – ลง จากนั้นคลิกเมาส์ค้างไว้แล้วลากไปยังตำแหน่งของเลเยอร์ที่ต้องการเปลี่ยน สังเกตว่ารูปภาพจะเปลี่ยนลำดับตามเลเยอร์ที่เปลี่ยนลำดับด้วยเช่นกัน การล็อคเลเยอร์ คือ การล็อคไม่ให้กระทำสิ่งใด ๆ กับเลเยอร์ โดยในการล็อคเลเยอร์ของโปรแกรม Photoshop มีรูปแบบต่าง ๆ อีก 4 ตัวเลือก ซึ่งรูปแบบของการล็อคนี้จะอยู่ที่พาเนล Layer ตรงคำสั่ง Lock โดยวิธีการใช้ล็อคเลเยอร์นั้น ให้คลิกเมาส์เลเยอร์ที่ต้องการล็อค จากนั้นคลิกตรงสัญลักษณ์ของการล็อคแต่ละชนิดก็จะสามารถใช้การล็อคตามที่เลือกได้ โดยสังเกตว่าเลเยอร์ที่เลือกจะใช้การล็อคนั้นจะมีรูปกุญแจอยู่ตรงท้ายของเลเยอร์ และสัญลักษณ์ของการล็อคที่เลือกก็จะเป็นปุ่มบุ๋มลงไป ดังรายละเอียดของรูปแบบการล็อค ดังนี้ Lock Transparent Pixels ล็อคส่วนโปร่งใสทำให้ไม่สามารถทำสิ่งใดในส่วนที่โปร่งใสได้ Lock Image Pixels ล็อคเลเยอร์ทำให้ไม่สามารถปรับสี เติมสี ส่วนใด ๆ ของเลเยอร์ได้ Lock Position ล็อควัตถุไว้ทำให้ไม่สามารถเคลื่อนย้ายหรือปรับเปลี่ยนได้ Lock All ล็อคทุกอย่างทำให้ไม่สามารถทำอะไรกับเลเยอร์นั้นได้ การเปลี่ยนสีเลเยอร์ คือการเปลี่ยนสีของเลเยอร์ที่อยู่ในพาเนล เพื่อให้เลเยอร์ที่สร้างขึ้นมานั้นดูง่าย และสะดวกในการจัดกลุ่มให้กับเลเยอร์โดยใช้สีเป็นตัวบอกได้ โดยให้คลิกเลือกเลเยอร์ที่ต้องการเปลี่ยนสี จากนั้นคลิกที่ปุ่ม บนพาเนล Layer หรือคลิกเมาส์ทางขวา จะปรากฏแถบคำสั่ง ให้คลิกเลือกคำสั่ง Layer Properties จะปรากฏไดอะล็อกซ์บล็อกซ์ขึ้นมา ในช่อง Color คลิกเลือกสีที่ต้องการ การลิงค์เลเยอร์ คือ การรวมเอาเลเยอร์หลาย ๆ เลเยอร์มารวมอยู่ด้วยกัน เวลาเคลื่อนย้ายตำแหน่งหรือจัดวางใหม่จะได้กระทำได้ในครั้งเดียว หรือสามารถเคลื่อนย้ายเลเยอร์เหล่านี้ไปด้วยกันได้ โดยไม่ต้องย้ายทีละเลเยอร์ วิธีการสร้างลิงค์เลเยอร์สามารถทำได้ตามขั้นตอนดังนี้ 2. คลิกเมาส์ที่ไอคอน Link Layers เพื่อทำการลิงค์เลเยอร์ที่เลือกไว้ จากนั้นให้ผู้เรียนลองเปลี่ยนลำดับของเลเยอร์จะเห็นว่าเลเยอร์ที่ลิงค์นั้นจะย้ายไปด้วยกันเสมอ รวมทั้งรูปภาพที่อยู่ในแต่ละเลเยอร์ด้วยจะย้ายไปด้วยกันเสมอ และถ้าต้องการยกเลิกการลิงค์เลเยอร์ให้คลิกเมาส์ที่สัญลักษณ์ อีกครั้ง เลเยอร์ที่ทำการลิงค์ไว้ก็จะถูกยกเลิกการลิงค์ รวมทั้งรูปภาพบนหน้ากระดาษก็จะไม่รวมกันเป็นกรอบเดียวกัน การรวมเลเยอร์ คือ การกำหนดให้เลเยอร์หนึ่งไปรวมกับอีกเลเยอร์หนึ่ง หรือ รวม เลเยอร์ทั้งหมดในพาเนล Layers ให้กลายเป็นเพียงเลเยอร์เดียว ซึ่งการรวมเลเยอร์มีหลายรูปแบบ ดังนี้ Merge Down การรวมเลเยอร์สองเลเยอร์เข้าด้วยกัน Merge Visible การรวมเลเยอร์ที่แสดงผลทั้งหมด Flatten Image การรวมเลเยอร์ทั้งหมด การจัดกลุ่มให้กับเลเยอร์ เปรียบเสมือนการสร้างแฟ้มเอกสาร เพื่อจัดเก็บเลเยอร์แต่ละชนิดเข้าไว้ด้วยกัน โดยจำแนกเป็นประเภทหรือกลุ่มงานของเลเยอร์เพื่อให้เกิดความสะดวก วิธีการสร้างกลุ่มให้กับเลเยอร์ มีดังนี้ 3. การเพิ่มเลเยอร์ใหม่ในกลุ่ม ให้คลิกเมาส์ที่ไอคอน จะปรากฏเลเยอร์ใหม่ที่อยู่ใน Layer Animal คือ Layer 1 4. การดูเลเยอร์ต่าง ๆ ที่อยู่ในกลุ่มของ Layer ให้คลิกเมาส์ที่สัญลักษณ์ ซึ่งจะพบกับเลเยอร์ที่อยู่ในกลุ่มเลเยอร์ที่สร้างไว้ ถ้าเป็นสัญลักษณ์ หมายถึงเปิดให้เห็นเลเยอร์ที่อยู่ข้างในกลุ่ม 5. ถ้าต้องการนำเลเยอร์ที่อยู่ด้านนอกกลุ่มของเลเยอร์ย้ายเข้าไปอยู่ในกลุ่ม ให้คลิกเมาส์ที่เลเยอร์ที่สร้างไว้แล้ว จากนั้นลากเมาส์ที่เลเยอร์นั้นแล้วนำไปวางที่กลุ่มเลเยอร์ที่ต้องการย้ายเข้าไปจะเห็นว่าเลเยอร์ที่ต้องการย้ายนั้นเข้าไปอยู่ในกลุ่มเลเยอร์ สังเกตได้จากตัวอย่างของรูปภาพจะเขยิบเข้าไปด้านในกลุ่ม 6. ถ้าต้องการย้ายเลเยอร์ออกจากกลุ่มเลเยอร์ ให้คลิกเมาส์ที่เลเยอร์ที่ต้องการย้าย จากนั้นคลิกเมาส์ค้างไว้แล้วนำมาวางบนเลเยอร์ใดก็ได้ที่อยู่ด้านนอกของกลุ่ม Layer Layer Style เป็นเครื่องมือสำคัญที่ใช้สำหรับตกแต่งรูปภาพในเลเยอร์ให้มีลักษณะพิเศษที่สวยงามมากยิ่งขึ้น เช่น การกำหนดแสงเงา , กำหนดความหนาลึกของภาพแบบ 3 มิติ โดย Layer Style จะถูกสร้างขึ้นมาใหม่ซ้อนทับผสานลงไปกับรูปภาพในเลเยอร์หลัก โดยในขณะที่รูปภาพต้นฉบับยังคงมีรายละเอียดเหมือนเดิม โดยมีวิธีการใช้งาน Layer Style ดังนี้ 2. สามารถกำหนดรายละเอียดต่าง ๆ ของ Layer Style ได้จากทางขวามือ โดยด้านซ้ายมือจะเป็นรูปแบบของ Layer Style จากที่กล่าวไว้ตอนต้นว่าภาพในเลเยอร์บนจะบังเลเยอร์ด้านล่าง แต่ผลที่ได้ยังขึ้นกับความโปร่งใสของเลเยอร์ด้วย คือ ถ้าเลเยอร์บนโปร่งใสบางส่วน (Opacity น้อยกว่า 100%) จะทำให้มองเห็นภาพในเลเยอร์ล่างได้บางส่วนเช่นกัน การปรับความโปร่งใสของเลเยอร์จะมีผลต่อทุกๆบริเวณของภาพในเลเยอร์นั้นเสมอ Blend Mode คือ วิธีผสมสีของภาพในเลเยอร์ปัจจุบันเข้ากับเลเยอร์ด้านล่าง ซึ่งจะทำให้เกิดผลพิเศษขึ้น โดยที่ภาพในเลเยอร์ทั้งหมดไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ เลเยอร์มาสก์ คือ “หน้ากาก” สำหรับใช้บังภาพส่วนที่ไม่ต้องการแสดง ซึ่งจะทำให้บริเวณนั้นไม่ปรากฏออกมา คุณสมบัตินี้ทำให้เรานำภาพใดๆไปประกอบกับภาพอื่นได้โดยไม่ต้องลบส่วนที่ไม่ใช้ในภาพต้นฉบับให้เสียหาย และสามารถแก้ไขเปลี่ยนส่วนที่ถูกบังได้ง่าย การสร้างเอฟเฟ็คต์ด้วยเลเยอร์มาสก์ สร้างเลเยอร์มาสก์จาก Selection แก้ไขเลเยอร์มาสก์ การเปิด / ปิดเลเยอร์มาสก์ การลบเลเยอร์มาสก์ คุณสมบัติใหม่ที่เพิ่มขึ้นมาใน Photoshop CS5 ที่จะช่วยจัดการกับมาสก์หรือการบังภาพในเลเยอร์ได้สะดวกยิ่งขึ้น โดยสามารถสร้างมาสก์ด้วยการคลิกเลือกสีที่ใกล้เคียงกันจากไดอะล็อกบ็อกซ์ Color Range เลเยอร์สไตล์ (Layer Style) คือชุดคุณสมบัติที่เรากำหนดไว้กับเลเยอร์ เพื่อตกแต่งภาพในเลเยอร์นั้นให้มีลักษณะพิเศษต่างๆ เลเยอร์สไตล์จะประกอบด้วยเลเยอร์เอฟเฟ็คต์ตั้งแต่ 1 เอฟเฟ็คต์ขึ้นไป จัดการเลเยอร์สไตล์ 1. การลบเอฟเฟ็คต์แต่ละตัว ทำได้โดยคลิกลากชื่อเอฟเฟ็คต์นั้นไปทับปุ่ม ตกแต่งเลเยอร์ด้วยสไตล์สำเร็จรูป วิธีเรียกใช้สไตล์สามารถทำได้ดังนี้
|