<< Go Back

เฉลยแบบทดสอบปลายภาค ภาษาซี

1. การตรวจสอบโปรแกรม โปรแกรมแบบใดเร็วกว่ากัน
  1. ไมโครคอมพิวเตอร์  
  2. ไมโครคอนโทรลเลอร์  
  3. อินเทอร์พรีเตอร์  
  4. คอมไพเลอร์  
 
2. ข้อใดกล่าวมุถูกต้องเกี่ยวกับภาษาซี
  1. เดนนิส ริตชี เป็นผู้คิดค้นภาษาซี  
  2. ภาษาซีพัฒนามาจากภาษาซี  
  3. ภาษาซีมีต้นกำเนิดมาจากภาษาคอมพิวเตอร์บนยูนิกซ์  
  4. ภาษาซีไม่สามารถเรียกใช้คำสั่งซ้อนคำสั่งได้  
     
3. ผู้นำภาษาซีมาเผยแพร่ใช้งาน คือ
  1. Blaise Pascal  
  2. Dennis M. Ritchie  
  3. Brian W. Kernighan  
  4. ทั้งข้อ ข. และ ค.  
     
4. โปรแกรมภาษาซีจะเริ่มทำงานจากฟังก์ชันใด
  1. ฟังก์ชัน main  
  2. ฟังก์ชัน include  
  3. ฟังก์ชัน declare  
  4. ฟังก์ชัน library  
     
5. ข้อใดเป็นคำสั่งการแสดงผลออกมาทางจอภาพของภาษาซี
  1. printf  
  2. scanf  
  3. main  
  4. if  
     
6. การกำหนดฟังก์ชันต่างๆ ขึ้นใช้งานในภาษาซีจะกำหนดที่ใด
  1. ก่อนฟังก์ชัน main  
  2. หลังฟังก์ชัน main  
  3. กำหนดได้ทั้งก่อนหรือหลังฟังก์ชัน main  
  4. กำหนดไว้ในภายในฟังก์ชัน main  
     
7. comment ในภาษาซี สามารถเขียนได้กี่รูปแบบ อะไรบ้าง
  1. 1รูปแบบ *\
  2. 2 รูปแบบ /*...*/ , //
  3. 3 รูปแบบ /*...*/ , // , \\
  4. 4 รูปแบบ /*...*/ , // , \\ , ||
     
8. ฟังก์ชันหลักในการเขียนโปรแกรมภาษาซีคือข้อใด
  1. #include  
  2. Main( )  
  3. { }  
  4. ;  
     
9. อักขระในภาษาซีประกอบด้วยอะไรบ้าง
  1. ตัวอักขระ A-Z และ a-z
 
  2. ตัวเลข 0–9  
  3. ตัวอักขระพิเศษต่างๆ  
  4. ถูกทุกข้อ  
     

10. ข้อใด ไม่ใช่ ประเภทของข้อมูลในภาษาซี

  1. Integer
 
  2. number  
  3. Float  
  4. Character  
     
11. ข้อใดคือคำสงวนในโปรแกรมภาษาซี
  1. A_B
  2. 123
  3. break
  4. salary
     
12.  ข้อใด ไม่ถูกต้อง ตามกฎการตั้งชื่อตัวแปรในภาษาซี
  1. 1num  
  2. num2  
  3. Time_1  
  4. count_num  
     
13. ข้อใดคือคำสั่งที่ใช้ในการกำหนดค่าคงที่ให้กับโปรแกรมภาษาซี
  1. main()  
  2. printf  
  3. #include  
  4. #define  
     
14. ข้อใดคือ การประกาศตัวแปรชื่อ name สำหรับเก็บข้อมูลชนิดตัวอักษร ขนาดไม่เกิน 50
  1. char[50] name;  
  2. double name[50];  
  3. float name[50];  
  4. char name[50];  
     

15. ข้อใด ไม่ใช่ ฟังก์ชันที่ใช้ในการรับและแสดงผลข้อมูลในโปรแกรมภาษาซี

  1. getchar( )
 
  2. scanf( )  
  3. printf( )  
  4. int( )  
     
16. ฟังก์ชันที่ใช้ในการแสดงผลข้อมูลออกทางจอภาพ
  1. gets( )
  2. getchar( )
  3. printf( )
  4. scanf( )
     
17. ฟังก์ชัน getch() มีหน้าที่อะไร
  1. รับข้อมูลจากคีย์บอร์ดเพียง 1 ตัวอักขระ
  2. แสดงข้อมูลจากคีย์บอร์ดเพียง 1 ตัวอักขระ
  3. แสดงข้อมูลที่เป็นข้อความ
  4. รับข้อมูลที่เป็นข้อความ
     
18. ข้อใดคือ รหัสควบคุมการแสดงผล ให้มีการแท็บแนวนอนในคำสั่ง printf
  1. \a
  2. \v
  3. \o
  4. \t
     
19. คำสั่ง scanf("%c",&sum); หมายถึงข้อใด
  1. รับอักขระเข้ามาเก็บไว้ในตัวแปร sum  
  2. รับข้อความเข้ามาเก็บไว้ในตัวแปร sum  
  3. รับจำนวนเต็มเข้ามาเก็บไว้ในตัวแปร sum  
  4. รับจำนวนทศนิยมเข้ามาเก็บไว้ในตัวแปร sum  
     

20. ข้อใด ไม่ใช่ ขั้นตอนหลักในการเขียนโปรแกรมชุดคำสั่ง

  1. การวิเคราะห์ปัญหา
 
  2. การเขียนผังงาน  
  3. การเขียนโปรแกรม  
  4. การจัดทำคู่มือ  
     
21. ข้อใดเรียงลำดับขั้นตอนการพัฒนาโปรแกรมได้ถูกต้อง
  1. การวิเคราะห์ปัญหา >> การเขียนโปรแกรม >> การเขียนผังงาน >> การจัดทำคู่มือ >> การทดสอบโปรแกรม
  2. การวิเคราะห์ปัญหา >> การเขียนผังงาน >> การเขียนโปรแกรม >> การทดสอบโปรแกรม >> การจัดทำคู่มือ
  3. การเขียนโปรแกรม >> การทดสอบโปรแกรม >> การวิเคราะห์ปัญหา >> การเขียนผังงาน >> การจัดทำคู่มือ
  4. การทดสอบโปรแกรม >> การเขียนโปรแกรม >> การวิเคราะห์ปัญหา >> การเขียนผังงาน >> การจัดทำคู่มือ
     
22. การเขียน Flowchart มีความหมายตรงกับข้อใด
  1. การแสดงการทำงานของคอมพิวเตอร์
  2. การดำเนินการแก้ปัญหาโดยคำพูด
  3. การใช้รูปภาพหรือสัญลักษณ์ เขียนแทนคำอธิบาย
  4. การเลือกเครื่องมือและออกแบบขั้นตอนวิธีการแก้ปัญหา
     
23. ข้อใดคือการจำลองขั้นตอนวิธีการแก้ปัญหาในรูปของคำบรรยาย
  1. โฟลวชาร์ต (Flowchart)
  2. Algorithm
  3. Pseudocode
  4. Refinement
     
24. สัญลักษณ์ใดคือ จุดเริ่มต้น (start) หรือจุดสิ้นสุด (stop) ในการเขียนโฟลวชาร์ต (Flowchart)
  1.
  2.
  3.
  4.
     

25. จากภาพที่กำหนด มีหลักการทำงานรูปแบบใด

          

  1. การทำงานแบบลำดับ
  2. การทำงานแบบทางเลือก
  3.การทำงานแบบการทำซ้ำ
  4. การทำงานแบบไล่ระดับ
     
26. จุดบกพร่องหรือความผิดพลาดในโปรแกรมคอมพิวเตอร์ เรียกว่าอะไร
  1. บุค (book)  
  2. ลอจิก (Logic)  
  3. ดีบัก (Debug)  
  4. บัก (bug)  
     
27. การวิเคราะห์และกำหนดรายละเอียดของปัญหาตรงกับข้อใด
  1. เป็นการเลือกเครื่องมือและออกแบบขั้นตอนวิธี
 
  2. เป็นการตรวจสอบและปรับปรุง  
  3. เป็นการลงมือดำเนินการแก้ปัญหา
  4. เป็นการทำความเข้าใจกับปัญหาเพื่อแยกข้อมูลออกมา
     
28. ข้อใดคือข้อแตกต่างระหว่างซูโดโค้ดกับผังงาน
  1. ซูโดโค้ดกับผังงานเป็นคำอธิบายขั้นตอนการทำงาน
  2. ซูโดโค้ดกับผังงานเป็นแผนภาพของโปรแกรม
  3. ผังงานเป็นคำอธิบายขั้นตอนการทำงาน แต่ซูโดโค้ดเป็นแผนภาพของโปรแกรม
  4. ซูโดโค้ดเป็นคำอธิบายขั้นตอนการทำงาน แต่ผังงานเป็นแผนภาพของโปรแกรม
     
29. ข้อใดคือ ตัวดำเนินการลอจิก
  1. !=
  2. &&
  3. <=
  4. >
     
30. ข้อใดคือ คำสั่งควบคุมแบบทางเลือก
  1. คำสั่ง while
  2. คำสั่ง do-while
  3. คำสั่ง for
  4. คำสั่ง switch
     
31. ข้อใดเป็นคำสั่งในการตรวจสอบเงื่อนไขแบบทางเลือกเดียว
  1. คำสั่ง if
  2. คำสั่ง if-else
  3. คำสั่ง for
  4. คำสั่ง switch
     
32.  ข้อใดเป็นคำสั่งที่ใช้กำหนดให้โปรแกรมตัดสินใจเลือกทำอย่างใดอย่างหนึ่งจาก 2 ทางเลือก
  1. คำสั่ง Nested if  
  2. คำสั่ง else  
  3. คำสั่ง if-else  
  4. คำสั่ง switch  
     

33.จากภาพผังงานที่กำหนด คือลักษณะการทำงานของคำสั่งใด

          

  1. คำสั่ง if
  2. คำสั่ง Nested if
  3. คำสั่ง do-while
  4. คำสั่ง for
     

34. จากภาพผังงานที่กำหนด คือลักษณะการทำงานของคำสั่งใด

    

  1. คำสั่ง while  
  2. คำสั่ง for  
  3. คำสั่ง do-while  
  4. คำสั่ง  Switch-case  
     
35. ข้อใดคือ คำสั่งลูปการทำซ้ำที่ทราบจำนวนรอบที่แน่นอน
  1. คำสั่ง for
 
  2. คำสั่ง while  
  3. คำสั่ง do-while
  4. คำสั่ง if-else
     

36. จากโปรแกรมดังภาพ หน้าจอจะแสดงคำว่า Coding For Kids กี่ครั้ง

    

  1.  1 ครั้ง
  2.  5 ครั้ง
  3. 10 ครั้ง
  4. 15 ครั้ง
     

37. เครื่องหมาย & ที่ใช้ในพอยน์เตอร์ หมายถึงข้อใด

  1. Array of
  2. Address of
  3. Value at Address
  4. Indirection Operator
     
38. เครื่องหมาย * ที่ใช้ในพอยน์เตอร์ หมายถึงข้อใด
  1. Array of
  2. Address of
  3. Value at Address
  4. Indirection Operator
     
39. ข้อมูลที่อยู่ในตัวแปรพอยน์เตอร์คืออะไร
  1. ข้อมูลในหน่วยความจำ
  2. ค่าแอดเดรสหน่วยความจำ
  3. อินเด็กซ์ของอาร์เรย์
  4. ตัวดำเนินการลอจิก
     
40. ข้อใดกำหนด a ให้เป็น array ของ int ขนาด 10 ช่อง ได้ถูกต้อง
  1. int = a[10];
  2. . int : a[10];
  3. int a[10];
  4. int == a[10]
 

<< Go Back