<< Go Back

การนำเทคโนโลยีมาใช้งานที่เกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูล เพื่อให้ได้เป็นสารสนเทศ เป็นเทคโนโลยีที่ใช้เป็นการผสมผสาน ระหว่างเทคโนโลยีทางคอมพิวเตอร์กับเทคโนโลยีการสื่อสาร เพื่อช่วยในการติดต่อสื่อสาร การส่งผ่านข้อมูลและสารสนเทศให้สะดวกรวดเร็วมากขึ้น

คอมพิวเตอร์เป็นเครื่องอิเล็กทรอนิกส์ที่สามารถจดจำข้อมูลต่าง ๆ และปฏิบัติตามคำสั่งที่บอก เพื่อให้คอมพิวเตอร์ทำงานอย่างใดอย่างหนึ่ง คอมพิวเตอร์ประกอบด้วยอุปกรณ์ต่าง ๆ ต่อเชื่อมกันเรียกว่า ฮาร์ดแวร์ (Hardware) และอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์นี้จะต้องทำงานร่วมกับโปรแกรมคอมพิวเตอร์หรือที่เรียกกันว่า ซอฟต์แวร์ (Software)

ในการทำงานของคอมพิวเตอร์ จะมีขั้นตอนการทำงานพื้นฐาน 4 ขั้นตอน

1. หน่วยรับข้อมูล (Input) คอมพิวเตอร์จะทำหน้าที่รับข้อมูลเพื่อนำไปประมวล อุปกรณ์ที่ทำหน้าที่รับข้อมูลที่นิยมใช้ในปัจจุบัน ได้แก่ แป้นพิมพ์ , เมาส์ , สแกนเนอร์ เครื่องอ่านรหัสบาร์โค้ด , ไมโครโฟน และกล้องดิจิตอล เป็นต้น
2. หน่วยประมวลผล (Process) เปรียบเสมือนสมองของเครื่องคอมพิวเตอร์ ทำหน้าที่ในการควบคุมการทำงานของระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการประมวลผลจะประกอบด้วย ซีพียู (CPU) , หน่วยความจำ Rom , หน่วยความจำ Ram, เมนบอร์ด เป็นต้น เมื่อคอมพิวเตอร์รับข้อมูลเข้าสู่ระบบแล้ว จะทำการประมวลผลตามโปรแกรมหรือคำสั่งที่กำหนด
3. หน่วยแสดงผล (Output) คอมพิวเตอร์จะแสดงผลลัพธ์ที่ได้จากการประมวลผลไปยังหน่วยแสดงผล อุปกรณ์ทำหน้าที่แสดงผลที่ใช้แพร่หลายในปัจจุบัน ได้แก่ จอภาพ (Monitor) และเครื่องพิมพ์ (Printer) เป็นต้น
4. หน่วยจัดเก็บข้อมูล (Storage) คอมพิวเตอร์จะทำการจัดเก็บข้อมูลลงในอุปกรณ์เก็บข้อมูล เช่น แผ่นซีดี แผ่นดีวีดี ฮาร์ดดิสก์ (Hard Disk) แผ่นฟลอบปีดิสก์ (Floppy Disk) และแฟลชไดร์ฟ ฮาร์ดดิสก์ (Hard disk) เป็นต้น

1. ฮาร์ดแวร์ (Hardware) หมายถึง เครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ที่ใช้ร่วมกับเครื่องคอมพิวเตอร์
2. ซอฟต์แวร์ (Software) หมายถึง โปรแกรมหรือชุดคำสั่งที่จะสั่งให้เครื่องคอมพิวเตอร์ทำงาน เช่น Microsoft Word, Adobe Photoshop, Python, Scratch
3. พีเพิลแวร์ (Peopleware) หมายถึง บุคคลที่ทำหน้าที่เกี่ยวข้องกับเครื่องคอมพิวเตอร์ นั่นคือ ผู้ใช้เครื่อง และผู้เขียนโปรแกรม ฯลฯ
4. ข้อมูลและสารสนเทศ (Data and Information) ข้อมูลในระบบคอมพิวเตอร์ที่มีจำนวนมาก อาจอยู่ในรูปของตัวเลข ตัวอักษร กราฟิก เป็นข้อมูลที่ต้องการได้รับการประมวลผลเพื่อทราบผลลัพธ์ หรือต้องการจัดเก็บให้เป็นระบบระเบียบเพื่อใช้งานต่อไป

คอมพิวเตอร์สามารถจำแนกได้หลายประเภท ขึ้นอยู่กับความแตกต่างของขนาดเครื่อง ความเร็วในการประมวลผล และราคา มีประเภทที่สำคัญ คือ

1. คอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะ เป็นคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลที่มีขนาดเล็กเหมาะกับโต๊ะทำงานในสำนักงาน สถานศึกษา และที่บ้าน
2. คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค หรือบางครั้งเรียกว่า แล็ปท็อปคอมพิวเตอร์ เป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีขนาดเล็กกว่าเครื่องพีซีแบบตั้งโต๊ะน้ำหนักเบา จึงสามารถนำติดตัวไปยังสถานที่ต่างๆ ได้ มีแผงแป้นพิมพ์และจอภาพติดกับตัวเครื่องรวมทั้งมีแบตเตอรี่ภายในเครื่อง เหมาะกับงานที่จำเป็นต้องออกนอกสถานที่
3. แท็บเล็ต เป็นคอมพิวเตอร์พกพาที่มีขนาดกำลังเหมาะ มีทั้งแบบมีแป้นพิมพ์ในตัวและแบบไม่มีแป้นพิมพ์ในตัว สามารถใช้ทั้งแบบสัมผัสและใช้ปากกาชนิดพิเศษเขียนแบบจอภาพได้
4. สมาร์ทโฟน คือโทรศัพท์มือถือที่รองรับระบบปฏิบัติการต่างๆ ได้ รองรับการใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่าน 4G, Wi-Fi และสามารถใช้งานโซเชียลเน็ตเวิร์ค แอพพลิเคชั่นต่างๆ เช่น ไลน์, ยูทูป, เฟสบุ๊ค, ทวิตเตอร์, อินสตาแกรม เป็นต้น มีหน้าจอเป็นแบบระบบสัมผัส

อุปกรณ์คอมพิวเตอร์แต่ละประเภทมีการใช้งานแตกต่างกันดังนี้

1. คีย์บอร์ด (Keyboard) เป็นอุปกรณ์ในหน่วยรับข้อมูล ใช้ในการนำข้อมูลที่เป็นตัวอักษร ตัวเลขหรือสัญลักษณ์ต่างๆ ลงในเครื่องคอมพิวเตอร์ โดยปกติมักจะมีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าหรือใกล้เคียง มีแป้นต่างๆ เปรียบได้กับหูของคนเราที่สามารถฟังแล้วเข้าใจว่าคนอื่นพูดอะไร
คีย์บอร์ดประกอบด้วย 5 ส่วนหลักๆ
1. แป้นฟังก์ชัน เป็นแป้นพิเศษใช้งานเฉพาะเจาะจงประกอบด้วย F1-F12
2. แป้นควบคุม เป็นแป้นสำหรับสั่งการบางอย่างร่วมกับปุ่มอื่นๆ
3. แป้นตัวเลข เป็นแป้นสำหรับป้อนข้อมูลที่เป็นตัวเลขและสัญลักษณ์ทางการคำนวณ
4. แป้นตัวอักษร ประกอบด้วยตัวอักษร ตัวเลข เครื่องหมายวรรคตอนและแป้นสัญลักษณ์
5. แป้นนำทาง ใช้ในการควบคุมทิศทางการเคลื่อนที่ของเคอร์เซอร์

 

2. เมาส์ (Mouse) เป็นอุปกรณ์ในหน่วยรับข้อมูล ใช้ในการควบคุมการทำงานของคอมพิวเตอร์ โดยการกดที่ปุ่มของเมาส์ เมื่อเราจับเมาส์เคลื่อนไหวไปมา สังเกตบนจอมอนิเตอร์จะเห็นตัวชี้ตำแหน่งบนหน้าจอเคลื่อนไหวตามไปด้วย ระยะทางและทิศทางจะสัมพันธ์และเป็นไปในแนวทางเดียวกับการเลื่อนเมาส์ เมาส์มีรูปร่างลักษณะที่แตกต่างกันออกแบบมาเพื่อให้พอดีกับการใช้งาน โดยส่วนโค้งและส่วนเว้าโค้งเข้าตามกับอุ้งมือของมนุษย์

          วิธีการใช้งานดังนี้
1. คลิก (Click) เลื่อนตัวชี้เมาส์ไปตำแหน่งที่ต้องการเลือก คลิกแล้วปล่อยที่ปุ่มด้านซ้ายของเมาส์ 1 ครั้ง ส่วนใหญ่เป็นการเลือกไอคอนหรือปุ่มคำสั่งหรือคลิกเลือกเมนูที่ต้องการ
2. คลิกขวา (Right-click) เลื่อนตัวชี้เมาส์ไปตำแหน่งที่ต้องการเลือก คลิกแล้วปล่อยที่ปุ่มด้านขวาของเมาส์ 1 ครั้ง มักเป็นการเลือกใช้เมนูลัด เมนูย่อยต่างๆ
3. ดับเบิลคลิก (Double-click) เลื่อนตัวชี้เมาส์ไปตำแหน่งที่ต้องการเลือก คลิกแล้วปล่อยที่ปุ่มด้านซ้ายของเมาส์ติดกันอย่างรวดเร็ว 2 ครั้ง มักเป็นการเลือกเปิดโปรแกรม หรือโฟลเดอร์ต่างๆ
4. แดรก (Drag) เลื่อนตัวชี้เมาส์ไปตำแหน่งที่ต้องการ แล้วกดที่ปุ่มด้านซ้ายของเมาส์ค้างไว้ พร้อมกับลากเมาส์ไปในทิศทางที่ต้องการ มักใช้ในการเคลื่อนย้ายวัตถุ หรือการสร้างขอบเขตของการเลือกวัตถุ


3. ทัชแพด (Touch pad) เป็นอุปกรณ์ในหน่วยรับข้อมูลที่นิยมใช้ในคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก ทัชแพดใช้ในการเลื่อนเคอร์เซอร์โดยใช้การเคลื่อนไหวของนิ้วมือ เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ทดแทนเมาส์

วิธีการใช้ทัชแพด (Touch pad)

  ย้ายตัวชี้ตำแหน่ง
วาง 1 นิ้วบนทัชแพด แล้วลากนิ้วไปมาจะเป็นการเลื่อนตัวชี้ตำแหน่ง ไปยังตำแหน่งที่เราต้องการบนหน้าจอ เปรียบเหมือนการเลื่อนเมาส์ไปมา
  การคลิก
กดที่ทัชแพดหนึ่งครั้ง เพื่อคลิกหนึ่งครั้งและสองครั้ง เพื่อดับเบิลคลิกที่เคอร์เซอร์
  การหมุน
หมุนภาพหรือบางส่วนของหน้าจอโดยวางสองนิ้วไว้ที่ทัชแพด แล้วหมุนพร้อม ๆ กัน
  การลากและวางข้อมูล
ลากและวางข้อมูลโดยกดทัชแพดสองครั้งเพื่อเลือกรายการ กวาดนิ้วเพื่อย้ายตำแหน่ง จากนั้นยกนิ้วเพื่อปล่อย
  ไล่รายการ
ไล่รายการในหน้าต่าง หน้าจอหรือในรายการโดยกดที่ทัชแพดโดยใช้สองนิ้ว จากนั้นกวาดนิ้วจากด้านหนึ่งไปอีกด้านหนึ่ง หรือขึ้นและลง ยกนิ้วเพื่อหยุดการไล่รายการ
  การซูม
ซูมเข้าหรือออกขณะใช้งานหน้าต่าง โดยวางสองนิ้วไว้ที่ทัชแพด  จากนั้นเลื่อนออกเพื่อซูมเข้าและเลื่อนเข้าเพื่อซูมออก

4. ไมโครโฟน (Microphone) เป็นอุปกรณ์ในหน่วยรับข้อมูล ทำหน้าที่รับข้อมูลเสียงต่างๆ ออกมาให้เราได้ยินทางลำโพงหรือหูฟัง

ซีพียู (CPU) เป็นอุปกรณ์ประมวลผลข้อมูลที่รับเข้ามา แล้วแสดงผลออกไปยังจอมอนิเตอร์ ซีพียูจะทำหน้าที่คล้ายสมองของคน คือ เมื่อเราได้รับข้อมูลต่างๆ สมองจะประมวลผลข้อมูลแล้วแสดงออกมาทางกิริยาท่าทางหรือคำพูด เหมือนกับซีพียูที่จะประมวลผลข้อมูลแล้วแสดงออกมาทางจอมอนิเตอร์

1. จอภาพ (Monitor) หรือที่เรียกว่าจอมอนิเตอร์ เป็นอุปกรณ์แสดงผลข้อมูล ใช้แสดงผลลัพธ์ที่ได้จากหน่วยประมวลผลของเครื่องคอมพิวเตอร์ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลตัวอักษร ข้อมูลภาพและภาพเคลื่อนไหว เพื่อให้ผู้ใช้มองเห็นในขณะใช้งานเครื่องคอมพิวเตอร์
2. จอสัมผัส (touchscreen) สามารถเป็นได้ทั้งอุปกรณ์รับข้อมูลเข้าและอุปกรณ์แสดงผลข้อมูลในเวลาเดียวกัน เป็นคุณลักษณะหนึ่งคล้ายกับแท็บเล็ตคอมพิวเตอร์ เป็นจอมอนิเตอร์ที่สามารถสั่งงาน โดยใช้นิ้วสัมผัสที่ภาพหรือข้อความที่ปรากฏบนจอมอนิเตอร์

3. เครื่องพิมพ์ (Printer) เป็นหน่วยแสดงผลของข้อมูล ใช้ในการพิมพ์ผลงานที่ได้จากหน้าจอภาพ แสดงปรากฏออกมาในรูปกระดาษทั้งรูปภาพและอักษร เปรียบได้กับปากของคนเราเช่นเดียวกับจอมอนิเตอร์นั่นเอง
4. กล้อง (Video Camera) เป็นหน่วยแสดงผลของข้อมูล สามารถจับภาพเคลื่อนไหวของเราไปปรากฏในหน้าจอมอนิเตอร์ และสามารถส่งภาพเคลื่อนไหวนี้ผ่านระบบเครือข่าย เพื่อให้คนอีกฟากหนึ่งสามารถเห็นตัวเราเคลื่อนไหวได้เหมือนอยู่ต่อหน้า ถือว่าเป็นอุปกรณ์ที่มีประโยชน์ และเริ่มมีความจำเป็นมากขึ้นเรื่อย ๆ
5. ลำโพง (speaker) เป็นหน่วยแสดงผลของข้อมูล ทำหน้าที่ส่งออกข้อมูลที่อยู่ในลักษณะของเสียงให้ผู้ใช้งานได้ยิน

คอมพิวเตอร์มีความสำคัญและมีประโยชน์ ช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตของมนุษย์ให้ดีขึ้น มีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ1. ช่วยสร้างงาน เช่น เอกสารรายงาน รูปภาพ งานศิลปะ ตารางเก็บข้อมูล งานนำเสนอ แบบจำลองโครงสร้าง เป็นต้น ซึ่งสามารถสร้างชิ้นงานได้ถูกต้อง รวดเร็วและมีประสิทธิภาพเป็นอย่างมาก
2. ช่วยสร้างความบันเทิง เช่นดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกม เป็นต้น ทำให้ผ่อนคลายความเครียด ได้รับความสนุกสนาน และใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์
3. ช่วยติดต่อสื่อสาร ไม่ว่าจะอยู่ใกล้หรือไกลกัน คอมพิวเตอร์สามารถรับส่งข้อมูลข่าวสารได้ภายในระยะเวลาอันสั้น ทำให้ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายเป็นอย่างมาก
4. ช่วยสืบค้นข้อมูล คอมพิวเตอร์เป็นแหล่งการเรียนรู้ที่ดี สำหรับค้นคว้าหาความรู้ต่างๆ ทำให้ได้รับข้อมูลตามต้องการซึ่งนับว่าช่วยอำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้ได้เป็นอย่างดี ซึ่งการสืบค้นข้อมูลผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต จะได้ข้อมูลที่หลากหลาย และเป็นสากล

1.ทำความสะอาดคอมพิวเตอร์บ้าง : เริ่มจากการถอดปลั๊กไฟก่อน และทำความสะอาดโดยใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำเปล่า หรือน้ำยาทำความสะอาดคอมพิวเตอร์ เช็ดส่วนต่างๆ ที่เป็นตัวเครื่องหรือกรอบหน้าจอ เมาส์ คีย์บอร์ด รวมถึงสายไฟคอมพิวเตอร์
2.เป่าฝุ่นหรือกำจัดฝุ่นที่อยู่บนตัวอุปกรณ์ : แนะนำให้ใช้แปลงทาสีที่มีขนอ่อนๆ อาจจะเป็นแปรงด้ามไม้ไผ่หาซื้อได้ตามร้านวัสดุก่อสร้าง เพราะหน้าจอหรือตัวเครื่องบางรุ่น หากใช้แปรงที่มีขนหนาอาจทำให้เป็นรอยได้ ถ้าใครมีเครื่องเป่าฝุ่นหรือเป่าลม สามารถเป่าเครื่องได้เพื่อไล่ฝุ่นออกจากคอมพิวเตอร์
3.ตรวจเช็คความเรียบร้อยภายในตัวอุปกรณ์ : ทำการเปิดฝาเครื่องคอมพิวเตอร์ โดยจะต้องไขน็อตที่ล็อกฝาข้างอยู่ ควรตรวจเช็คพัดลมระบายความร้อน และสายไฟที่อยู่ภายในว่ายังอยู่ในสภาพที่ใช้งานได้ดีอยู่หรือเปล่า เพราะความร้อนก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้คอมพิวเตอร์เสียได้
4.สำหรับผู้ที่ใช้คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ การจัดวางหน้าจอคอมพิวเตอร์ควรวางให้ห่างจากกำแพง หรือมีช่องว่างด้านหลังจอประมาณ 1 ไม้บรรทัด เพราะความร้อนที่กระจายออกมาจะได้มีการระบายที่โล่งและไม่เกิดอุณหภูมิสูง รวมถึงตัวเคสคอมพิวเตอร์ก็ควรตั้งในที่มีช่องระบายความร้อนให้ลมสามารถพัดเข้า - ออกได้
ผู้ที่ใช้โน้ตบุ้ค ควรยกระดับด้านล่างของโน้ตบุ้คให้มีช่องว่างระบายอากาศด้านล่างด้วย เนื่องจากโน้ตบุ้คจะมีความร้อนที่สูงกว่าคอมพิวเตอร์ทั่วไป
5.เข้าศูนย์หรือร้านซ่อมคอม : วิธีนี้สำหรับคนที่ไม่สะดวกในการจัดการคอมพิวเตอร์ ก็ต้องฝากให้เป็นงานของช่างคอมพิวเตอร์ช่วยตรวจสอบกันว่าอุปกรณ์ต่างๆ ยังอยู่ในสภาพดีไหม
6.จัดการไฟล์ที่ไม่ได้ใช้แล้วหรือไม่สำคัญ : ไฟล์ต่างๆ ที่เราดาวน์โหลดมา หรือเก็บไว้ในเครื่องคอมพิวเตอร์หากไม่ได้ใช้งานแล้ว หรือไม่สำคัญก็ควรลบทิ้งจากเครื่องคอมพิวเตอร์ เพราะจะทำให้ไม่หนักเครื่องในส่วนของหน่วยความจำ จะได้พร้อมและมีทีว่างรับข้อมูลใหม่
7.จัดระเบียบโฟลเดอร์ต่างๆ : ในส่วนนี้จะช่วยประหยัดทั้งเวลาและช่วยในเรื่องการทำงานของเราได้ เพราะหากเราจัดการไฟล์และโฟลเดอร์ต่างๆ ให้เป็นระเบียบเรียบร้อย เวลาที่หาไฟล์ต่างๆ ก็จะสะดวกมากขึ้น
8.กำจัดและสแกนไวรัสในคอมพิวเตอร์ : สำหรับคนที่ใช้คอมพิวเตอร์มานานข้อมูลต่างๆ รูปภาพไฟล์เพลง งานต่างๆ มากมายที่อยู่ในเครื่องมาจากหลากหลายที่ ทำให้มีไวรัสแฝงตัวอยู่ในโฟลเดอร์ ลองหาโปรแกรมสแกนไวรัส เช่น โปรแกรม nod32 เพื่อให้การใช้งานคอมพิวเตอร์ไม่มีปัญหา

9.ลบโปรแกรมที่ไม่ได้ใช้งานทิ้ง : หากเรารู้ว่าโปรแกรมไหนที่เราไม่ได้ใช้งานแล้ว หรือเกมส์ต่างๆ ที่เราลงไว้ในคอมพิวเตอร์ไม่ได้เล่น เราควรจะลบออกเช่นเดียวกับโฟลเดอร์และไฟล์ เพราะจะทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์ของเราไม่ทำงานหนักเกินไป

วิธีการดูแลรักษาแป้นพิมพ์ (keyboard)

1. ควรทำความสะอาดสม่ำเสมอ โดยใช้สำลีพันก้านหรือผ้าสะอาดชุบแอลกฮอล์ นำมาเช็ดคราบสกปรกบนแป้นพิมพ์
2. ใช้แปรงขนอ่อนปัดฝุ่นที่ติดอยู่บนแป้นพิมพ์
3. คลุมผ้าทุกครั้งหลังการใช้งาน

 

วิธีการดูแลรักษาจอภาพ (Monitor)

1. เพื่อปรับแสงสว่างของจอ ให้มีความเหมาะสม กับสภาพของห้อง
2. สามารถทำความสะอาดจอภาพได้โดยการใช้ผ้าชุบน้ำบิดให้แห้ง เช็ดจอภาพให้สะอาด
3. หลังจากใช้งานแล้วให้ใช้ผ้าคลุมจอภาพทุกครั้งเพื่อป้องกันฝุ่นละออง
4. ไม่ควรเปิดจอภาพทิ้งไว้นานๆโดยที่ไม่มีการใช้งานเลย เพราะจะทำให้จอภาพเสื่อมลงได้


วิธีการดูแลรักษาเครื่องพิมพ์ (Printer)

1.ปิดเครื่องพิมพ์ทุกครั้งหลังใช้งาน
2.เมื่อกระดาษติดอย่ากระชากให้ค่อยๆ ดึงออก

วิธีการดูแลรักษาเมาส์ (Mouse)

1.ควรวางเมาส์ไว้ที่แผ่นรองเมาส์ทุกครั้ง
2.อย่ากระแทกเมาส์กับพื้น
3.ทำความสะอาดเมาส์บริเวณลูกกลิ้ง

การดูแลรักษาแผ่นซีดี (CD)

1.ควรเก็บแผ่นซีดีไว้ในกล่อง เพื่อป้องกันฝุ่นละอองหรือสิ่งสกปรกอื่นๆ
2.ไม่ควรขีดหรือเขียนสิ่งใดลงบนแผ่นซีดี
เนื่องจากจะทำให้แผ่นซีดีเกิดรอยขีดข่วนและเสียหาย ใช้งานไม่ได้
3.การจับแผ่นซีดีที่ถูกต้อง ควรใช้นิ้วชี้หรือนิ้วกลางใส่ลงไปที่ช่องตรงกลางของแผ่น แล้วใช้นิ้วอื่นจับตรงส่วนขอบของแผ่น
4.ไม่ควรงอแผ่นซีดี อาจจะทำให้แผ่นซีดีมีโอกาสแตกหักได้ง่าย

ข้อห้ามและข้อปฏิบัติ ในการใช้เครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์
1. ไม่ควรนำอาหารหรือเครื่องดื่มมารับประทานในระหว่างที่ใช้เครื่อง
2. ระวังอย่าทำน้ำหกใส่อุปกรณ์
3. อย่านำแท่งแม่เหล็กหรือแหล่งกำเนิดอำนาจแม่เหล็กเข้าใกล้จอภาพ
4. ระวังอย่าให้แสงแดดจ้า ส่องกระทบอุปกรณ์โดยตรง
5. ไม่ควรเก็บอุปกรณ์ไว้ในบริเวณที่มีอุณหภูมิสูง โดยเฉพาะเกิน 40 องศาเซลเซียส
6. ไม่ควรใช้งานในบริเวณที่มีฝุ่นมาก
7. อย่าพยายามถอดชิ้นส่วนอุปกรณ์ออกจากกัน หากไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ
8. ควรมีการดูแลรักษา และทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ


การเปิดอุปกรณ์เทคโนโลยี เมื่อต้องการเปิดอุปกรณ์เทคโนโลยี ให้กดปุ่มกดสวิตซ์เปิดบนอุปกรณ์เทคโนโลยีนั้น โดยทั่วไปมักมีสัญลักษณ์ แล้วกดสวิตซ์ตรงจอมอนิเตอร์ จะพบว่ามีไฟติดที่ตัวเครื่องและแป้นพิมพ์


การปิดอุปกรณ์เทคโนโลยี เมื่อต้องการปิดอุปกรณ์เทคโนโลยี ให้ปฏิบัติตามขั้นตอน ดังนี้
1. ปิดโปรมแกรมทั้งหมดที่ใช้งานอยู่
2. คลิกที่ปุ่มสตาร์ท (Start) หรือเริ่มต้น
3. คลิกที่ปุ่มเพาเวอร์ (Power) จากนั้นจะมีแถบคำสั่งปรากฏขึ้น
4. เลือกคำสั่ง Shut Down จากนั้นประมาณ 1 นาที ซีพียูและหน้าจอจึงจะดับ
5. กดปุ่มเพาเวอร์ (Power) ที่หน้าจอเพื่อปิดคอมพิวเตอร์อย่างสมบูรณ์

องค์ประกอบของคอมพิวเตอร์ https://www.youtube.com/watch?v=8rgTzT44Tb0
คีย์บอร์ด https://www.youtube.com/watch?v=ypd9fco_fys
นิทานคอมพิวเตอร์ https://www.youtube.com/watch?v=HE0fLJHFHHE
อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ https://www.youtube.com/watch?v=dw3neqAIfm0

       

<< Go Back